ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับวอลเปเปอร์ติดผนัง

วอลเปเปอร์ (Wallpaper) คือ วัสดุที่สามารถช่วยเปลี่ยนผนังธรรมดาให้มีความสวยงามและดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีดีไซน์วอลเปเปอร์ติดผนังที่ถูกผลิตขึ้นมากมาย เพื่อตอบสนองความชอบ ความสนใจ และความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม นอกจากนี้ วอลเปเปอร์ยังเป็นอีกทางเลือกแทนการทาสีผนังและเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ ช่วยให้การตกแต่งภายในเสร็จสิ้นได้ภายในเวลาอันสั้น ลดการสะท้อนของความร้อน ลดเสียงรบกวน และมีข้อดีอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายนี้ เจ้าของบ้านสามารถเปลี่ยนหรือลอกวอลเปเปอร์ออกได้ง่าย เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศของพื้นที่ได้ต้องการ

วอลเปเปอร์ติดผนังมีประวัติอันยาวนาน เริ่มต้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 15 หรือ “ยุคกลาง” (Middle Age) ตอนปลายในทวีปยุโรป โดยชนชั้นสูงมักนิยมตกแต่งภายในด้วยการขึงผ้าเอาไว้บนผนังหิน เพื่อสร้างสีสันให้บ้านหรือปราสาท แต่ในตอนนั้นผ้าเป็นวัสดุราคาสูงทำให้ผู้คนทั่วไปเข้าถึงได้ยาก แต่คนหลายกลุ่มก็ชื่นชอบการตกแต่งแบบนี้เช่นกัน ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 16 จึงมีการนำกระดาษเข้ามาใช้ในการตกแต่งผนังแทนผ้า โดยนิยมใช้กระดาษที่เหลือจากการพิมพ์ที่ผิดพลาดมาสร้างเป็นลวดลายต่างๆ จนเป็นที่มาของชื่อ “วอลเปเปอร์” (Wallpaper) นั่นเอง

ในศตวรรษที่ 18 เทคโนโลยีการผลิตได้ถูกพัฒนามากขึ้น ส่งผลให้โรงงานสามารถพิมพ์ลวดลายที่มีขนาดใหญ่และสวยงาม จึงสามารถนำกระดาษไปใช้ตกแต่งได้อย่างยืดหยุ่น กลายเป็นที่สนใจของคนทั่วไปและชนชั้นสูง โดยเฉพาะในอังกฤษที่เป็นผู้ครองตลาดหลักในช่วง ค.ศ. 1770 ซึ่งสมเด็จพระราชินีแอนน์ (Queen Anne) ได้ประกาศให้วอลเปเปอร์จัดเป็นผลิตภัณฑ์ประเภท “หรูหรา ฟุ่มเฟือย” ในปี ค.ศ. 1772 และทำการจัดการเก็บภาษีกันอย่างจริงจังเลยทีเดียว

ต่อมา วอลเปเปอร์ติดผนังก็ได้รับการพัฒนา คิดค้นออกแบบ จนมีหลากหลายประเภทอย่างที่เราพบเห็นกันในทุกวันนี้ เรียกได้ว่าตอบโจทย์การตกแต่งหลายสไตล์ตามความต้องการได้อย่างตรงจุด