ร้อนแบบนี้ เปลี่ยนมาใช้ผ้าม่านกันแสงดีกว่าไหม?


อากาศในประเทศไทยนั้นเรียกได้ว่าร้อนแดดเกินจะรับไหว โดยเฉพาะแสงแดดจากดวงอาทิตย์ในหน้าร้อน ที่ทำให้หลายท่านต้องเหงื่อไหลไม่หยุดหรือเกิดเป็นลมแดดขึ้นมา หากต้องเปิดแอร์ตลอดทั้งวันก็คงจะไม่ตอบโจทย์ด้านค่าใช้จ่าย  ผ้าม่านจึงเป็นทางออกสำหรับบ้านทุกหลังและอาคารสำนักงานทุกที่ แต่หลายท่านอาจสงสัยว่า แม้มีปิดม่านก็ยังร้อนอยู่ดี? ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? แล้วการเปลี่ยนไปใช้ผ้าม่านกันแสงจะดีกว่าอย่างไร ในบทความนี้ LUXE DÉCOR จะมาแนะนำให้ทราบ พร้อมกับตอบคำถามที่คาอยู่ในใจหลายท่าน

เมืองไทยร้อนแค่ไหน? 

ประเทศไทยนั้นมีลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบร้อนชื้นเป็นเหตุมาจากที่ตั้งที่อยู่ในเขตร้อนชื้นใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งทั่วทั้งประเทศนั้นจะมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 19-38 องศาเซลเซียส และอย่างที่ทุกท่านทราบว่าในช่วงเดือนเมษายนนั้นจะเป็นช่วงเดือนที่มีอากาศร้อนร้อนสุดๆ ในรอบปี อย่างเช่นในวันที่ 21 เมษายน 2563 อ.เมือง จ.ตาก มีอุณหภูมิสูงสุดถึง 43.5 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว

ที่เมืองไทยร้อนขนาดนี้คงจะโทษอะไรไปไม่ได้นอกจากดวงอาทิตย์นั่นเอง ซึ่งสาเหตุดวงอาทิตย์แผ่ความร้อนได้ขนาดนี้ก็เพราะด้วยองค์ประกอบส่วนใหญ่นั้นคือ “ก๊าซ” อย่างไฮโดรเจน และสสารตรงแกนกลางที่ถูกบีบอัดอย่างแน่นหนา ทำให้เกิดความร้อนอย่างมหาศาล ที่แม้แต่พื้นผิวก็มีอุณหภูมิสูงถึง 5,505 องศาเซลเซียส เมื่อส่องลงมาที่พื้นผิวโลกก็จะกระจายความร้อนมาถึงบริเวณภูมิประเทศที่อยู่เขตร้อนชื้นเพราะโดนแดดโดยตรง

ทำไมแม้มีผ้าม่านแต่ก็ยังร้อน?

ผ้าม่านสามารถบดบังแสงแดดให้กับห้องได้ถือเป็นความจริง แต่สิ่งที่ร้านผ้าม่านไม่ได้บอกคุณตอนซื้อก็คือ ผ้าม่านตามมาตรฐานทั่วไปนั้นจะไม่สามารถกัน “พลังงานความร้อน” ทั้งหมดได้ ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อแสงแดดกระทบกับวัตถุ แสงส่วนหนึ่งจะถูกสะท้อนกลับออกไปด้านนอก แสงอีกส่วนหนึ่งจะเปลี่ยนเป็นความร้อนแทน และผ้าม่านที่ปิดหน้าต่างก็ได้ดูดซึมความร้อนนั้นไว้เต็มๆ และแผ่ออกมาสู่ห้องของท่านนั้นเอง ที่สำคัญแสงแดดที่เปลี่ยนเป็นความร้อนจะไม่สามารถหนีออกไปจากห้องได้ในทันที แต่กลับใช้เวลาที่ค่อนข้างนาน เนื่องจากปรากฏการณ์เรือนกระจก หรือ Greenhouse Effect นั่นเอง

สำหรับ Greenhouse Effect ให้ท่านลองนึกภาพของรถยนต์ที่จอดอยู่กลางแดด  ปรากฏการณ์เรือนกระจกนั้นเกิดจากแสงแดดที่สองเข้ามาในตู้กระจก เมื่อกระทบวัตถุต่างๆ ในตู้ก็จะกลายเป็นความร้อน แล้วไม่สามารถหนีออกจากตู้กระจกได้หรือหนีออกได้ช้า กลายเป็นความร้อนอบอวลอยู่ภายในตู้กระจก ซึ่งห้องของท่านก็เหมือนกับตู้กระจกหรือรถยนต์กลางแดดนั่นเอง ความร้อนที่สะสมนั้นออกไปได้ช้ากว่าความร้อนที่เข้ามา เป็นเหตุให้ห้องในตอนกลางวันนั้นร้อนอย่างมาก แค่ผ้าม่านมาตรฐานก็คงช่วยไม่ไหว

ผ้ามากันแสงช่วยได้อย่างไร?

ปัจจุบันเทคโนโลยีที่ร้านผ้าม่านใช้ในการผลิตม่านก็ได้พัฒนามากขึ้น มีผ้าให้เลือกหลายชนิด รวมไปถึงผ้าม่านกันแสงที่จะมาช่วยให้ห้องของท่านรอดพ้นจากความร้อนของแสงแดด 

ผ้าม่านกันแสงนั้นถูกออกแบบมาเพื่อมอบความเป็นส่วนตัวและป้องกันความร้อนแก่ผู้อยู่อาศัย กันแสงได้ดีมากกว่าเดิม ซึ่งจะถูกผลิตออกมาจากโพลีเอสเตอร์ หรือโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอน และมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดคือ DIMOUT และ BLACKOUT

ผ้าม่าน DIMOUT จะสามารถกันแสงได้ 40% – 95% ขึ้นอยู่กับโทนสีของเนื้อผ้า ส่วนผ้าม่าน BLACKOUT นั้นกันแสงได้ 100% และทั้งสองยังสามารถป้องกันแสง UV ช่วยลดความร้อนที่จะสะสมในห้องได้อีกด้วย สำหรับท่านใดที่มีบ้านที่โดนแดดจัดอยู่ตลอดเวลา หรือท่านที่ต้องการตัดแสงรบกวนเพื่อนอนกลางวัน ผ้าม่านกันแสงถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเลยทีเดียว นอกจากนี้ผ้าม่านกันแสงยังมีความยืดหยุ่นในด้านของการดีไซน์ มีตั้งแต่สีเข้มไปยังสีอ่อน และผ้าม่าน BLACKOUT ในบางคอลเลคชั่นยังมีคุณสมบัติพิเศษอีก คือ สามารถป้องกันการลามไฟ (Flame Retardant) และดูดซับเสียงสะท้อนภายนอกได้ (Additional Noise Block) กันแสงและกันเสียง เพื่อมอบความเป็นส่วนตัวที่สูงที่สุดกับผู้อยู่อาศัย

LUXE DÉCOR มีบริการตกแต่งผ้าม่านรวมไปถึงผ้าม่านกันแสง โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาเรื่องการติดตั้งและการใช้งานกับคุณลูกค้าทุกท่าน 

 


ABOUT LUXE DÉCOR

  • LUXE DÉCOR คือผู้บริการผ้าม่านตกแต่งชั้นนำแบบครบวงจร
  • บริการผ้าม่านตกแต่งทุกประเภทและรูปแบบ โดยทีมงานระดับมืออาชีพ
  • พร้อมการรับประกันหลังการขาย 1 ปีเต็ม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าม่านของเราได้ที่

  • LINE Official : @LUXEDECOR หรือ
  • โทร. : 081-556-9566
LUXE DÉCOR ผู้ให้บริการงานผ้าม่านครบวงจร