8 แบบผ้าม่าน เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับสไตล์ของบ้าน?


เมื่อซื้อบ้านหรือปลูกบ้านใหม่ แน่นอนว่ามีรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ ที่เจ้าของบ้านต้องจัดการดูแล ทั้งการย้ายข้าวของเครื่องใช้ ต่อเติมผนังและพื้น เพิ่มฟังก์ชันต่างๆ ในบ้าน ติดตั้งระบบแอร์ รวมไปถึงการเลือกแบบผ้าม่านที่จะนำมาติดตั้งอีกด้วย

 

การติดตั้งผ้าม่านแบบใดแบบหนึ่งส่งผลต่อบรรยากาศโดยรวมของบ้านอย่างมาก บ้านจะดูหรู เรียบง่าย หรือมีสีสัน ก็ล้วนขึ้นอยู่กับผ้าม่าน ดังนั้นมาทำความรู้จักกับแบบผ้าม่านต่างๆ ก่อนเลือกซื้อไปติดตั้งกับบ้านหรือห้องของคุณ

 

1. ม่านจีบ (Pleated Curtains)

คือ แบบผ้าม่านที่ได้รับความนิยมสูง และเป็นมาตรฐานที่บ้านอาคารต่างๆ เลือกใช้กันมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ถือเป็นผ้าม่านที่มีทั้งความคลาสสิกและร่วมสมัย เนื่องจากเป็นผ้าม่านที่เข้ากับดีไซน์ห้องได้หลากหลายสไตล์ อีกทั้งเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จึงสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านผ้าม่านทั่วไป

 

ม่านจีบนั้นมีลักษณะเด่น คือ ที่หัวผ้าม่านด้านบนมีการจับจีบเป็น 3 จีบ ส่งผลให้ผ้าม่านมีลอนเรียงกันสวยงาม ดูประณีต  ถ้าคิดไม่ออกว่าอยากได้ผ้าม่านแบบไหน ม่านจีบเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก นอกจากนี้ หากบ้านมีบานหน้าต่างที่ใหญ่และสูง การเลือกติดม่านจีบจะช่วยให้ห้องนั้นๆ ดูหรูหราและเป็นระเบียบมากขึ้น

 

2. ม่านลอน (Wave Curtains)

หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการให้บรรยากาศภายในห้องดูหรู มีความมินิมอล เหมาะที่จะติดตั้งกับบ้านที่มีการตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่ม่านลอนก็สามารถเข้ากับสไตล์การตกแต่งรูปแบบอื่นได้อย่างลงตัว ไม่ทำให้ห้องดู “เยอะ” จนเกินไป

 

ม่านลอนเป็นผ้าม่านที่มีลักษณะ คือ ด้านบนสุดจะเป็นลอนที่ถูกพับคล้ายกับม่านตาไก่ แต่ไม่มีการจับจีบหรือเจาะห่วง ซึ่งทรงที่ได้จะคล้ายกับม่านจีบแต่มีความเรียบกว่า และหัวผ้าม่านจะเป็นลอนโค้งอิสระไปจนสุดปลายผ้า 

 

3. ม่านตาไก่ (Eyelet Curtains)

เป็นแบบผ้าม่านที่มีความพลิ้วไหวเป็นอิสระ ไม่มีการจับจีบ ให้อารมณ์ดูเรียบง่าย สวยงาม

 

ม่านตาไก่มีเอกลักษณ์ที่สังเกตได้ง่าย คือ มีการสอดห่วงตาไก่ ยึดติดกับผ้าม่านให้ดูเป็นลอนสวยงาม อีกทั้งห่วงตาไก่นั้นสามารถโชว์รางผ้าม่านได้ชัดเจน เหมาะกับการตกแต่งบ้านแบบร่วมสมัย รวมไปถึงห้องที่มีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์รูปทรงเรขาคณิต

 

4. ม่านคอกระเช้า (Loop Curtains)

สำหรับใครที่ต้องการแบบผ้าม่านที่แตกต่างไม่ซ้ำใครและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ม่านคอกระเช้า สามารถตอบโจทย์นี้ได้ดี อีกทั้งเป็นผ้าม่านที่ดูสบายตา มีความน่ารัก เก๋ และไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นอย่างมาก

 

ม่านคอกระเช้า มีลักษณะการเย็บคล้ายเสื้อคอกระเช้า โดยใช้ผ้ามาเย็บทำเป็นหูแทนการติดห่วงหรือตะขอ อาจมีกระดุม หรืออาจเป็นกระดุมหลอกและใช้ตีนตุ๊กแกในการถอดใส่ผ้าม่านจึงใช้งานง่าย นอกจากนี้ ยังเป็นผ้าม่านที่สามารถโชว์รางผ้าม่านให้เห็นอีกด้วย 

 

5. มู่ลี่ (Blinds)

อีกหนึ่งแบบผ้าม่านสไตล์โมเดิร์นที่หลายบ้านต้องการนำมาตกแต่ง เนื่องจากสามารถกำหนดปริมาณแสงที่เข้ามาภายในได้ตามต้องการ มู่ลี่มีลักษณะเป็นบานปรับแสงแนวนอน จึงปรับทิศทางแสงไปตามที่ต้องการได้โดยไม่จำเป็นต้องดึงขึ้น-ลงเสมอไป

 

ทั้งนี้มู่ลี่ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมักทำมาจากไม้หรืออลูมิเนียม ซึ่งให้ความรู้สึกและบรรยากาศที่ต่างกัน โดยมูลี่ไม้ จะให้ความเป็นธรรมชาติ อบอุ่น ส่วนมู่ลี่อลูมิเนียมนั้นจะสื่อได้ถึงความเป็นโมเดิร์นได้ดีกว่า มู่ลี่นั้นเหมาะที่จะติดตั้งในห้องหรือพื้นที่ที่จำกัด ช่วยให้การตกแต่งภายในเป็นไปอย่างลงตัว

 

6. ม่านพับ (Roman Blinds)

ม่านรูปแบบนี้เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับบ้านที่มีพื้นที่น้อย และผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด สามารถดึงขึ้นลงได้สะดวก เหมาะกับหน้าต่างบานแคบหรือบานเล็กๆ ที่ติดกันหลายบาน เลือกเปิด-ปิด ได้โดยไม่ต้องเปิดขึ้นทั้งหมด

 

ม่านพับจะมีลักษณะเป็นชั้นๆ และเรียงซ้อนกันขึ้นไปเมื่อดึงขึ้น ซึ่งให้อารมณ์ความรู้สึกโมเดิร์นแบบเรียบหรู ประหยัดพื้นที่ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ที่สำคัญคือผู้อยู่อาศัยสามารถเปิด-ปิดได้มากน้อยตามต้องการ สามารถติดตั้งได้กับระบบเชือก โซ่ดึง หรือระบบผ้าม่านไฟฟ้า

 

7. ม่านม้วน (Roller Blinds)

หลายคนอาจเคยสับสนระหว่างม่านม้วนกับม่านพับ เนื่องจากมีลักษณะคล้ายๆ กัน ต่างกันตรงที่ว่า ม่านม้วนจะเป็นผ้าผืนใหญ่ เมื่อต้องการเปิดทัศนะวิสัยก็สามารถม้วนเก็บขึ้นได้อย่างมิดชิด ทำให้ประหยัดพื้นที่ได้มาก อีกทั้งยังเป็นม่านที่ไม่เก็บฝุ่น ทำความสะอาดได้ง่าย จึงกลายเป็นตัวเลือกของใครหลายๆ คนในปัจจุบัน

 

ม่านม้วนนั้นสามารถมอบบรรยากาศแบบโมเดิร์นและเรียบง่าย เหมาะสำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์นและมินิมอล อีกทั้งเหมาะสำหรับติดตั้งในอาคารสำนักงานและพื้นที่ออฟฟิศ สามารถติดตั้งได้กับระบบเชือก โซ่ดึง หรือระบบผ้าม่านไฟฟ้า นอกจากนี้ ม่านม้วนยังมาพร้อมกับตัวเลือกระดับการกรองแสง ทั้งแบบ Blackout, Dimout และผ้าชนิดกันแสง UV

 

8. ม่านหลุยส์ (Louis Curtain)

ผ้าม่านที่เป็นนิยามของความหรูหราขั้นสุด เป็นแบบผ้าม่านที่มีหลากหลายองค์ประกอบในการออกแบบและตัดเย็บหลายครั้ง จึงก่อให้เกิดเป็นดีไซน์ที่หรูหรา คลาสสิก และอลังการอย่างมาก สื่อได้ถึงการตกแต่งอย่างมีระดับ

 

ผ้าม่านหลุยส์นั้นมีองค์ประกอบที่สร้างจุดเด่นให้กับตัวม่านถึง 4 องค์ประกอบ ได้แก่ ลูกหลุยส์ หางหลุยส์ ชายครุย และไทด์ นอกจากนี้ มีการใช้กล่องหลุยส์ครอบบริเวณด้านบนสุดของผ้าม่านอีกด้วย แบบผ้าม่านทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผ้าม่านที่จัดจำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบัน โดยผ้าม่านแต่ละชนิดมีจุดเด่นและเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำกัน มอบความรู้สึกและบรรยากาศต่างกัน ซึ่งเหมาะกับสไตล์การตกแต่งที่ต่างกันนั่นเอง

 

สำหรับเจ้าของบ้าน ผู้ดูแลอาคาร และท่านใดที่กำลังมองหาผ้าม่านคุณภาพดี มีบริการติดตั้งครบวงจร หรือต้องการคำปรึกษา ที่ร้านผ้าม่าน LUXE DÉCOR มีผ้าม่านรูปแบบต่างๆ และวอลเปเปอร์ ให้เลือกอย่างครบครัน พร้อมให้คำแนะนำการเลือกผ้าม่านที่ตอบโจทย์ที่สุด

 

สอบถามราคาผ้าม่าน ข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทาง

LINE Official: @LUXEDECOR

โทร. : 081-556-9566

LUXE DÉCOR ผู้ให้บริการงานผ้าม่านครบวงจร