เจ้าของบ้านควรติดตั้งผ้าม่านกันแสงใน “ทิศ” ไหนของบ้าน?


เมื่อพูดถึงการตกแต่งภายในบ้าน ผ้าม่าน คือ หนึ่งในเฟอร์นิเจอร์ที่เจ้าของบ้านไม่ควรมองข้ามไป เพราะนอกจากจะเพิ่มความสวยงามและสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับห้องแล้ว ผ้าม่านยังมอบความเป็นส่วนตัว อีกทั้งให้การยืดอายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ต่างๆจากแสงแดดเมืองไทยที่ร้อนชื้น ด้วยอุณหภูมิโดยเฉลี่ยสูงถึง 35 – 40 องศาเซลเซียสในแทบทุกวันเลยทีเดียว

หากพูดถึงคุณสมบัติในการป้องกันแสง หลายคนอาจนึกถึง ผ้าม่านกันแสง ที่นับเป็นหนึ่งในผ้าม่านที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยลดระดับแสงแดดภายในห้องที่แผ่เข้ามาในบ้านได้ดี แต่ก็มาพร้อมราคาที่สูงกว่าทั่วไป จนทำให้เกิดคำถามว่า “ควรติดตั้งผ้าม่านกันแสงในทิศไหนของบ้าน?” ดังนั้น LUXE DÉCOR จะขอมาแนะนำให้เจ้าของบ้านทุกท่านได้ทราบกัน

คุณสมบัติของผ้าม่านกันแสง

อันดับแรก เรามาทำความรู้จักและเรียนรู้ถึงคุณสมบัติของผ้าม่านกันแสงกันก่อน ผ้าม่านกันแสงหรือผ้าม่านกรองแสง คือ ผ้าม่านที่ทำจากวัสดุที่มีคุณสมบัติในการป้องกันหรือกรองแสงจากภายนอกในระดับที่มีประสิทธิภาพมากกว่าวัสดุทั่วไป ซึ่งสามารถตอบโจทย์บ้านที่ต้องเจอกับแสงแดดและความร้อนตลอดทั้งวัน โดยผ้าม่านกรองแสงสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1. ผ้าม่าน BLACKOUT

ผ้าม่านผ้าแบล็คเอาท์ (Blackout) มีความสามารถในการป้องกันแสงได้ 100% โดยเป็นผ้าม่านที่ใช้วัสดุโพลีเอสเตอร์หรือโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอนในการผลิต ซึ่งแบ่งแยกย่อยเป็น ชนิดเคลือบโฟม ชนิดเคลือบซิลิโคน และชนิดหลังผ้า

2. ผ้าม่าน DIMOUT

ผ้าม่านผ้าดิมเอาท์ (Dimout) สามารถป้องกันแสงได้ระหว่าง 40% – 95% ขึ้นอยู่กับโทนสีของเนื้อผ้าว่ามีความเข้มมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นผ้าม่านที่ผลิตจากวัสดุโพลีเอสเตอร์ หรือโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอน ผ่านกระบวนการประกบเนื้อผ้าอย่างเดียว ไม่ได้มีการเคลือบวัสดุอื่นๆ เหมือนกันผ้าม่านแบล็คเอาท์

ควรติดตั้งผ้าม่านกันแสงในทิศไหนของบ้าน?

ทิศทางของแสงแดดนนั้นส่งผลต่อการสะสมความร้อนภายในบ้านและแม้ในห้องคอนโด โดยธรรมชาติแล้ว เส้นทางการโคจรของแสงแดดเริ่มต้นจากทิศตะวันออกในตอนเช้าและอ้อมโค้งไปทางทิศใต้ สุดท้ายดวงอาทิตย์จะตกในทางทิศตะวันตกในช่วงเย็น ดังนั้นมาดูกันว่าห้องในทิศไหนจะถูกแสงแดดส่องมากที่สุด แล้วห้องได้เหมาะสำหรับติดตั้งผ้าม่านกันแสง เพื่อให้คุ้มค่างบประมาณมากที่สุด

1. ทิศเหนือ

เป็นทิศที่มีแสงแดดจากธรรมชาติส่องเข้าถึงน้อยที่สุด จึงทำให้ห้องที่อยู่ในทิศนี้มีเย็นสบาย อีกทั้งเป็นทิศที่รับแสงแดดน้อยตลอดทั้งวัน และได้รับความร้อนจากแสงน้อยที่สุดแทบตลอดทั้งปี จึงทำให้ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูหนาว ทิศนี้ก็จะเย็นสบายตลอดทั้งปีนั้นเอง ดังนั้นห้องที่อยู่ทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นห้องที่มักถูกใช้งานตอนกลางวันบ่อยๆ อย่าง ห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขก อาจไม่จำเป็นต้องติดตั้งผ้าม่านกันแสงแบบ BLACKOUT ที่กรองแสง 100% แต่อาจเลือกเป็นผ้าม่าน DIMOUT แทน เพื่อให้มีแสงธรรมชาติอ่อนๆ เข้ามาตลอดทั้งวัน

2. ทิศใต้

ทิศใต้ถือเป็นทิศที่อากาศถ่ายเทสะดวก แม้จะได้ลมธรรมชาติแต่ก็เป็นลมฤดูร้อนซะส่วนใหญ่ อีกทั้งได้รับแสงแดดตลอดทั้งปี เป็นทิศที่ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัยตลอดทั้งวันมากนัก คนส่วนใหญ่จึงมักเลือกทำห้องเก็บของหรือห้องน้ำในทิศนี้ แต่หากเป็นห้องที่ใช้สอยตลอดทั้งวันหรือมีห้องนอนอยู่ในทิศนี้ ก็ควรติดตั้งผ้าม่านกันแสงหรือมู่ลี่กรองแสงสำหรับห้องขนาดเล็ก เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนสะสมในช่วงกลางวัน

3. ทิศตะวันออก

ห้องที่อยู่ในทิศนี้จะได้รับแสงแดดในช่วงเช้าจนถึงเที่ยง เป็นช่วงที่แดดไม่แรงมากเกินไป เหมาะสำหรับใช้วางห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น ซึ่งไม่ต้องการความร้อนมาก แต่จะได้รับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า การติดตั้งผ้าม่านทั่วไปก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่สำหรับใครที่ต้องการนอนกลางวันหรือกลัวว่าแสงแดดจะเข้ามามากเกินไป การติดตั้งผ้าม่านกันแสงก็สามารถทำได้

4. ทิศตะวันตก

ถือเป็นทิศที่ร้อนที่สุด เพราะจะได้รับแสงแดดในช่วงบ่ายไปจนถึงตอนเย็น ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยได้รับความร้อนมากตลอดทั้งวัน เหมาะสำหรับจัดวางพื้นที่ที่ต้องการความร้อนหรือพื้นที่ที่ต้องเจอความชื้นบ่อยๆ เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ หรือส่วนซักล้าง บ้านหลังไหนที่มีห้องเหล่านี้อยู่ในทิศนี้อยู่แล้ว การติดตั้งผ้าม่านกรองแสงอาจไม่จำเป็นนัก เพราะต้องการให้แสงแดดได้ทำงานเต็มที่ แต่อาจเลือกเป็นมู่ลี่ หรือ ผ้าม่านโปร่งแสงแทน เพื่อให้แสงที่เข้ามาในบ้านเบาลงและมีความละมุนมากขึ้น

จะเห็นได้ว่าทิศทางของห้องแต่ละห้องนั้นจะได้พบเจอกับแสงแดดในปริมาณที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าห้องนั้นๆ ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวันมากเท่าไหร่ ซึ่งสำหรับบ้านหลังใดที่จัดพื้นที่ใช้สอยอยู่ในทิศใต้และทิศตะวันตก การติดตั้งผ้าม่านกันแสงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

สำหรับเจ้าของบ้านท่านใดที่ต้องการติดตั้งผ้าม่านหรือต้องการคำแนะนำ LUXE DÉCOR พร้อมให้บริการออกแบบและติดตั้งผ้าม่าน โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาเรื่องการติดตั้งและการใช้งาน

เกี่ยวกับ LUXE DÉCOR

LUXE DÉCOR คือ ผู้ให้บริการออกแบบและติดตั้งผ้าม่านชั้นนำแบบครบวงจร  จำหน่ายผ้าม่านที่มีคุณภาพดีเยี่ยม ทีมงานมืออาชีพของเราพร้อมให้บริการและให้คำแนะนำกับลูกค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวัดพื้นที่ การเลือกชนิดและลวดลายผ้าม่าน ไปจนถึงการติดตั้ง พร้อมรับประกันงานบริการ 1 ปีเต็ม

หากสนใจ สามารถสอบถามราคาผ้าม่าน หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทาง

LINE Official: @LUXEDECOR

โทร. : 081-556-9566

LUXE DÉCOR ผู้ให้บริการงานผ้าม่านครบวงจร