การตกแต่งรายละเอียดภายในบ้านอย่างผนังหรือกำแพงห้อง เป็นส่วนที่เจ้าของบ้านทุกคนล้วนให้ความสำคัญ เพราะเมื่อเลือกไปแล้ว วัสดุ ลวดลาย และสีนั้นๆ จะอยู่กับบ้านไปอีกนาน เมื่อพูดถึงการตกแต่งผนังให้สวยงาม นอกจากการทาสีทั่วๆ ไป หลายคนกำลังหันมาสนใจติดวอลเปเปอร์ เปลี่ยนห้องธรรมดาๆ ให้มีสีสันและลวดลายโดดเด่นมากขึ้น อีกทั้งวอลเปเปอร์ยังติดตั้งและทำความสะอาดได้ง่าย ครอบคลุมการตกแต่งผนังทุกมุม
ทั้งนี้ พอมาถึงการเลือกวอลเปเปอร์ติดผนังสวยๆ สักหนึ่งลาย หลายคนมักพบปัญหา เลือกไม่ถูก ไม่แน่ใจว่าจะเลือกยังไงให้เหมาะกับลักษณะของห้อง และสับสนว่าจะใช้วอลเปเปอร์ประเภทไหนดี ดังนั้น LUXE DÉCOR จะมาแนะนำปัจจัยที่ควรคำนึงถึง ขณะเลือกวอลเปเปอร์ให้กับห้องของคุณ
สิ่งแรกที่ทุกคนควรคำนึงเอาไว้เสมอ คือ วัสดุที่ใช้ผลิตวอลเปเปอร์ เพราะวัสดุแต่ละแบบนั้นมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป และแน่นอนว่าแต่ละแบบตอบโจทย์ที่ต่างกัน ซึ่งวัสดุที่ผู้ผลิตนำมาใช้ทำวอลเปเปอร์ในปัจจุบันนั้นมีมากถึง 9 ประเภท LUXE DÉCOR จะยกตัวอย่างข้อดีและข้อเสียของแต่ละชนิด ดังนี้
วอลเปเปอร์ที่ผลิตจากกระดาษพิมพ์ลายอย่างเดียว มีข้อดีคือหาซื้อได้ง่ายในราคาที่ถูกกว่าชนิดอื่นๆ แต่ลวดลายที่ได้อาจดูไม่ค่อยมีมิติ และไม่ทนทานมากนัก
วอลเปเปอร์กระดาษที่มีการเคลือบพื้นผิวด้วยสารประเภทไวนิล และใช้การกดลายเพื่อสร้างลวดลายต่างๆ จัดเป็นประเภทวอลเปเปอร์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด เช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำได้ ดูแลรักษาง่าย ไม่จับฝุ่น อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้งานไปนานๆ สีและลวดลายอาจจางเร็ว โดยเฉพาะถ้าต้องเจอแสงแดดเป็นประจำ
วอลเปเปอร์ที่ใช้กระดาษชนิด Paperback ซึ่งเป็นกระดาษหนาที่มักใช้เป็นหน้าปกหนังสือ เคลือบผิวหน้าด้วยสารพีวีซี (PVC) และอบนูนเพื่อสร้างลวดลาย ส่งผลให้เป็นวอลเปเปอร์ที่มีลายที่ลึกและเด่นชัด มีความหนานุ่ม น้ำหนักเบา และสามารถทำความสะอาดได้ง่าย แต่ควรระมัดระวังเรื่องความชื้นที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย ไปจนถึงการสะสมของฝุ่นตามซอกต่างๆ
วอลเปเปอร์ที่ใช้กระดาษชนิด Paperback ใช้เส้นใยธรรมชาติหรือใยสังเคราะห์ เพื่อสร้างลวดลาย มีลักษณะเด่นคือ จะมีเส้นสายที่ชัดเจน โดดเด่น สร้างความหรูหราได้เป็นอย่างดี แต่ต้องดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ คอยปัดเช็ดฝุ่น และระวังไม่ให้โดนความชื้นเด็ดขาด
วอลเปเปอร์จากวัสดุ Non-Woven คือ วัสดุที่ทำจากเส้นใยในสิ่งทอผสมกับเส้นใยเซลลูโลสจากต้นไม้ เป็นวัสดุที่ได้รับการยอมรับในตลาดยุโรป มีน้ำหนักเบา มีความเหนียวจึงทนทานมากกว่า ฉีกขาดได้ยาก และระบายความชื้นได้ดี แต่อาจมีการลอกหลุดในบริเวณรอยต่อหรือขอบวอลเปเปอร์ จึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยติดตั้ง
วอลเปเปอร์ที่มีการพิมพ์ลวดลายจากรูปภาพหรือภาพเขียน ทำให้มีความต่อเนื่องตลอดทั้งชิ้นงาน แต่อาจต้องมีการเตรียมพื้นที่และวัดขนาดผนังที่แน่นอน ไม่อย่างนั้นภาพที่ได้อาจจะขาดหรือเกิน ทำให้ดูไม่สวยงาม
วอลเปเปอร์ที่ไม่ได้ผลิตจากกระดาษ แต่ทำจากวัสดุแผ่นยิปซัมรีดบางและเคลือบด้วยเส้นใยไฟเบอร์ คุณสมบัติของยิปซัมคือสามารถป้องกันการรั่วซึมของน้ำได้ดี อีกทั้งไฟเบอร์ยังมีความเหนียว ยึดติดกับผนังได้ดี ทนทานต่อการฉีดขาด แต่หากต้องการลอกวอลเปเปอร์ออก อาจทิ้งรอยลอกหรือล่อนที่พื้นผิวของผนังห้อง
วอลเปเปอร์ที่ทำจากวัสดุประเภทไม้ เช่น ไม้คอร์กหรือไม้ไผ่ มาทำการลามิเนตกับกระดาษหนังไก่ จึงให้ผิวสัมผัสที่คล้ายคลึงธรรมชาติมากที่สุดและมีความสวยงามอย่างมาก แต่ทั้งนี้ก็ต้องระวังไม่ให้ห้องเกิดความชื้น เพราะอาจทำให้ไม้เกิดการพองตัว ทำให้วอลเปเปอร์เสียหายได้
วอลเปเปอร์ที่ใช้วัสดุสิ่งทอเป็นด้านหลังแทนกระดาษ และเคลือบพื้นผิวด้วยสารพีวีซี (PVC) ทำให้มีความทนทาน ป้องกันการกระแทกได้ดี เหมาะกับห้องที่มีการใช้งานบ่อยๆ แต่ก็ต้องระวังเรื่องความชื้นเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นประเภทวอลเปเปอร์ที่สามารถพบได้ในท้องตลาดปัจจุบัน แบบไหนตอบโจทย์ แบบไหนที่ใช่ ก็ให้เก็บไว้เป็นตัวเลือกในการพิจารณาต่อไปได้เลย
รู้หรือไม่ว่า ลวดลายแต่ละแบบบนวอลเปเปอร์นั้นมีผลต่อบรรยากาศของห้องนั้นๆ เป็นอย่างมาก เหมือนกับการใส่เสื้อผ้าสีต่างๆ ลายต่างๆ ซึ่งจะให้รูปร่างของผู้ใส่ดูเปลี่ยนไปนั่นเอง ฉะนั้น ทริคสำคัญในการเลือกวอลเปเปอร์ที่มองข้ามไปไม่ได้ก็คือ เรื่องลวดลายและสี ยกตัวอย่างคร่าวๆ เช่น
สรุปได้ว่า ข้อดี-ข้อเสียและลวดลายของวอลเปเปอร์ เป็นข้อพิจารณาหลักๆ ที่ต้องคำนึงเอาไว้ก่อนตัดสินใจซื้อเสมอ สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาวอลเปเปอร์ติดผนังสวยๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการ พร้อมบริการติดตั้ง และอื่นๆ อย่างครบครัน LUXE DÉCOR พร้อมให้บริการ
สอบถามราคาวอลเปเปอร์ ข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่
LINE Official: @LUXEDECOR
โทร. : 081-556-9566