แชร์ทริคเลือกวอลเปเปอร์ติดผนัง ทำยังไงให้เหมาะกับห้องมากที่สุด?


การตกแต่งรายละเอียดภายในบ้านอย่างผนังหรือกำแพงห้อง เป็นส่วนที่เจ้าของบ้านทุกคนล้วนให้ความสำคัญ เพราะเมื่อเลือกไปแล้ว วัสดุ ลวดลาย และสีนั้นๆ จะอยู่กับบ้านไปอีกนาน เมื่อพูดถึงการตกแต่งผนังให้สวยงาม นอกจากการทาสีทั่วๆ ไป หลายคนกำลังหันมาสนใจติดวอลเปเปอร์ เปลี่ยนห้องธรรมดาๆ ให้มีสีสันและลวดลายโดดเด่นมากขึ้น อีกทั้งวอลเปเปอร์ยังติดตั้งและทำความสะอาดได้ง่าย ครอบคลุมการตกแต่งผนังทุกมุม

 

ทั้งนี้ พอมาถึงการเลือกวอลเปเปอร์ติดผนังสวยๆ สักหนึ่งลาย หลายคนมักพบปัญหา เลือกไม่ถูก ไม่แน่ใจว่าจะเลือกยังไงให้เหมาะกับลักษณะของห้อง และสับสนว่าจะใช้วอลเปเปอร์ประเภทไหนดี ดังนั้น LUXE DÉCOR จะมาแนะนำปัจจัยที่ควรคำนึงถึง ขณะเลือกวอลเปเปอร์ให้กับห้องของคุณ

 

พิจารณาข้อดี-ข้อเสียของวัสดุวอลเปเปอร์

สิ่งแรกที่ทุกคนควรคำนึงเอาไว้เสมอ คือ วัสดุที่ใช้ผลิตวอลเปเปอร์ เพราะวัสดุแต่ละแบบนั้นมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป และแน่นอนว่าแต่ละแบบตอบโจทย์ที่ต่างกัน ซึ่งวัสดุที่ผู้ผลิตนำมาใช้ทำวอลเปเปอร์ในปัจจุบันนั้นมีมากถึง 9 ประเภท LUXE DÉCOR จะยกตัวอย่างข้อดีและข้อเสียของแต่ละชนิด ดังนี้

 

1. Duplex Wallpaper

 

วอลเปเปอร์ที่ผลิตจากกระดาษพิมพ์ลายอย่างเดียว มีข้อดีคือหาซื้อได้ง่ายในราคาที่ถูกกว่าชนิดอื่นๆ แต่ลวดลายที่ได้อาจดูไม่ค่อยมีมิติ และไม่ทนทานมากนัก

 

2. Vinyl Wallpaper

 

วอลเปเปอร์กระดาษที่มีการเคลือบพื้นผิวด้วยสารประเภทไวนิล และใช้การกดลายเพื่อสร้างลวดลายต่างๆ จัดเป็นประเภทวอลเปเปอร์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด เช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำได้ ดูแลรักษาง่าย ไม่จับฝุ่น อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้งานไปนานๆ สีและลวดลายอาจจางเร็ว โดยเฉพาะถ้าต้องเจอแสงแดดเป็นประจำ

 

3. Foam Wallcovering

 

วอลเปเปอร์ที่ใช้กระดาษชนิด Paperback ซึ่งเป็นกระดาษหนาที่มักใช้เป็นหน้าปกหนังสือ เคลือบผิวหน้าด้วยสารพีวีซี (PVC) และอบนูนเพื่อสร้างลวดลาย ส่งผลให้เป็นวอลเปเปอร์ที่มีลายที่ลึกและเด่นชัด มีความหนานุ่ม น้ำหนักเบา และสามารถทำความสะอาดได้ง่าย แต่ควรระมัดระวังเรื่องความชื้นที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย ไปจนถึงการสะสมของฝุ่นตามซอกต่างๆ

 

4. Textile Wallcovering

 

วอลเปเปอร์ที่ใช้กระดาษชนิด Paperback ใช้เส้นใยธรรมชาติหรือใยสังเคราะห์ เพื่อสร้างลวดลาย  มีลักษณะเด่นคือ จะมีเส้นสายที่ชัดเจน โดดเด่น สร้างความหรูหราได้เป็นอย่างดี แต่ต้องดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ คอยปัดเช็ดฝุ่น และระวังไม่ให้โดนความชื้นเด็ดขาด

 

5. Non-Woven Wallpaper

 

วอลเปเปอร์จากวัสดุ Non-Woven คือ วัสดุที่ทำจากเส้นใยในสิ่งทอผสมกับเส้นใยเซลลูโลสจากต้นไม้ เป็นวัสดุที่ได้รับการยอมรับในตลาดยุโรป มีน้ำหนักเบา มีความเหนียวจึงทนทานมากกว่า ฉีกขาดได้ยาก และระบายความชื้นได้ดี แต่อาจมีการลอกหลุดในบริเวณรอยต่อหรือขอบวอลเปเปอร์ จึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยติดตั้ง

[LUXE DÉCOR] SEO MAY-C02-2

 

6. Photo Wall

 

วอลเปเปอร์ที่มีการพิมพ์ลวดลายจากรูปภาพหรือภาพเขียน ทำให้มีความต่อเนื่องตลอดทั้งชิ้นงาน แต่อาจต้องมีการเตรียมพื้นที่และวัดขนาดผนังที่แน่นอน ไม่อย่างนั้นภาพที่ได้อาจจะขาดหรือเกิน ทำให้ดูไม่สวยงาม

 

7. Fiber Wall

 

วอลเปเปอร์ที่ไม่ได้ผลิตจากกระดาษ แต่ทำจากวัสดุแผ่นยิปซัมรีดบางและเคลือบด้วยเส้นใยไฟเบอร์ คุณสมบัติของยิปซัมคือสามารถป้องกันการรั่วซึมของน้ำได้ดี อีกทั้งไฟเบอร์ยังมีความเหนียว ยึดติดกับผนังได้ดี ทนทานต่อการฉีดขาด แต่หากต้องการลอกวอลเปเปอร์ออก อาจทิ้งรอยลอกหรือล่อนที่พื้นผิวของผนังห้อง

 

8. Wood Backing Wallpaper

 

วอลเปเปอร์ที่ทำจากวัสดุประเภทไม้ เช่น ไม้คอร์กหรือไม้ไผ่ มาทำการลามิเนตกับกระดาษหนังไก่ จึงให้ผิวสัมผัสที่คล้ายคลึงธรรมชาติมากที่สุดและมีความสวยงามอย่างมาก แต่ทั้งนี้ก็ต้องระวังไม่ให้ห้องเกิดความชื้น เพราะอาจทำให้ไม้เกิดการพองตัว ทำให้วอลเปเปอร์เสียหายได้

 

9. Fabric Backing Wallpaper

 

วอลเปเปอร์ที่ใช้วัสดุสิ่งทอเป็นด้านหลังแทนกระดาษ และเคลือบพื้นผิวด้วยสารพีวีซี (PVC) ทำให้มีความทนทาน ป้องกันการกระแทกได้ดี เหมาะกับห้องที่มีการใช้งานบ่อยๆ แต่ก็ต้องระวังเรื่องความชื้นเช่นกัน

 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นประเภทวอลเปเปอร์ที่สามารถพบได้ในท้องตลาดปัจจุบัน แบบไหนตอบโจทย์ แบบไหนที่ใช่ ก็ให้เก็บไว้เป็นตัวเลือกในการพิจารณาต่อไปได้เลย

 

เลือกวอลเปเปอร์จากลวดลาย

[LUXE DÉCOR] SEO MAY-C02-3

รู้หรือไม่ว่า ลวดลายแต่ละแบบบนวอลเปเปอร์นั้นมีผลต่อบรรยากาศของห้องนั้นๆ เป็นอย่างมาก เหมือนกับการใส่เสื้อผ้าสีต่างๆ ลายต่างๆ ซึ่งจะให้รูปร่างของผู้ใส่ดูเปลี่ยนไปนั่นเอง ฉะนั้น ทริคสำคัญในการเลือกวอลเปเปอร์ที่มองข้ามไปไม่ได้ก็คือ เรื่องลวดลายและสี ยกตัวอย่างคร่าวๆ เช่น

  • วอลเปเปอร์ลวดลายขนาดเล็กหรือเรียบ – วอลเปเปอร์ที่เป็นสีอ่อน มีลวดลายเล็กๆ น้อยๆ หรือลายที่ดูเรียบ สามารถช่วยทำให้ห้องดูกว้าง สว่าง และสบายตามากขึ้น

 

  • วอลเปเปอร์ลวดลายขนาดใหญ่ – ผู้อยู่อาศัยจะสามารถมองเห็นลายอันสวยงามได้ชัดเจน ดูโดดเด่นกว่าองค์ประกอบอื่นๆ ในห้อง แต่บางคนอาจมองว่าเป็นลายที่ดูเยอะเกินไป ทำให้ห้องดูเล็ก หรือดูน่าเวียนหัว จึงเป็นวอลเปเปอร์ที่เหมาะสำหรับติดในห้องที่มีเพดานสูง และควรติดตั้งแบบเฉพาะจุดมากกว่าการติดทั้งห้อง
  • วอลเปเปอร์ลายทาง – เป็นลวดลายที่ดูได้อย่างเพลิดเพลิน ติดตั้งให้เข้ากับห้องต่างๆ ได้ง่าย อีกทั้งช่วยให้ห้องดูโล่งโปร่งขึ้น หากเป็นลายเส้นตรงจะช่วยให้เพดานดูสูงขึ้นด้วย

 

 

สรุปได้ว่า ข้อดี-ข้อเสียและลวดลายของวอลเปเปอร์ เป็นข้อพิจารณาหลักๆ ที่ต้องคำนึงเอาไว้ก่อนตัดสินใจซื้อเสมอ สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาวอลเปเปอร์ติดผนังสวยๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการ  พร้อมบริการติดตั้ง และอื่นๆ อย่างครบครัน LUXE DÉCOR พร้อมให้บริการ

 

สอบถามราคาวอลเปเปอร์ ข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่

LINE Official: @LUXEDECOR

โทร. : 081-556-9566

LUXE DÉCOR ผู้ให้บริการงานผ้าม่านครบวงจร