ผ้าม่านเป็นเฟอร์นิเจอร์ส่วนสำคัญภายในบ้าน ที่ให้ทั้งความสวยงามและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังปกป้องผู้อยู่อาศัยและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ จากแสงแดดอีกด้วย และแน่นอนว่าเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน ก็ต้องดูแลรักษา ซึ่งบางท่านที่ยังไม่ทราบวิธีดูแลผ้าม่าน อาจจะไม่กล้าทำความสะอาด หรือทำผิดพลาดจนผ้าม่านเสียหาย
LUXE DÉCOR ขอมาแนะนำวิธีดูแลผ้าม่านต่างๆ เพื่อจะดูแลรักษาผ้าม่านให้อยู่คู่บ้านไปนานๆ
การมีฝุ่นเกาะบนเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เช่น โซฟา โต๊ะ พรม เครื่องประดับ ฯลฯ นั้นเป็นเรื่องปกติ และเชื่อว่าหลายท่านคงจะเช็ดหรือดูดฝุ่นของใช้เหล่านี้เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะมีอยู่บ่อยครั้งที่หลายท่าน “ลืม” ที่จะกำจัดฝุ่นที่อยู่บนผ้าม่าน เนื่องจากเป็นจุดที่มองเห็นฝุ่นได้ค่อนข้างยาก หากไม่ได้สังเกตจริงๆ อาจมีฝุ่นสะสมเยอะกว่าจุดอื่น โดยเฉพาะผ้าม่านที่ติดบนหน้าต่างบานที่เปิดเป็นประจำ
วิธีดูแลผ้าม่านด้วยการกำจัดฝุ่นก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งร้านผ้าม่าน เพียงแค่ใช้เครื่องดูดฝุ่น ขอแนะนำให้เน้นดูดฝุ่นบริเวณช่วงรอยพับและขอบผ้าม่านเป็นพิเศษ เพราะเป็นจุดอับที่สะสมฝุ่นและเชื้อโรค ซึ่งก็ควรดูดฝุ่นอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
ผ้าม่านก็เหมือนเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งของบ้าน เมื่อผ่านการใช้งาน ก็อาจจะมีรอยเปื้อน หรือฝุ่นที่หนาเกินกว่าจะดูดออกให้หมดได้ ซึ่งหนึ่งในวิธีดูแลผ้าม่านให้ดูใหม่เสมอก็คือการซักผ้าม่าน ส่วนใหญ่แล้วจะมีด้วยกัน 4 วิธีการซักผ้าม่าน ได้แก่
หากท่านมีผ้าม่านขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก ติดตั้งไว้สูง หรือนำออกจากรางได้ยาก การทำความสะอาดโดยใช้ไอน้ำถือเป็นวิธีที่ตอบโจทย์อย่างมาก และยังเป็นวิธีที่ค่อนข้างเร็ว เพราะจะช่วยลดระยะเวลาในการแห้ง ลดขั้นตอนการถอดม่านอีกด้วย
ขอแนะนำให้ใช้เครื่องรีดผ้าไอน้ำ ต่อหัวแปรงนุ่มๆ และพ่นไอน้ำเป็นแนวเส้นตรงขึ้นลง นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ใช้ได้กับเนื้อผ้าหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่านกันแสง ผ้าไหม หรือแม้แต่ม่านโปร่ง
ผ้าม่านที่มีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบา เช่น ผ้าที่ใช้ในผ้าม่านสำเร็จรูป สามารถนำมาทำความสะอาดในเครื่องซักผ้าได้ เป็นวิธีที่สะดวกสบาย แต่ก็มีข้อระมัดระวังในการซักด้วย ดังนี้
เนื้อผ้าบางชนิดจะหดตัวเมื่อโดนความร้อน
ม่านตาไก่จะมีห่วงเหล็กที่อาจเกิดสนิมได้หากสัมผัสกับน้ำ จึงควรถอดออก
สำหรับม่านจีบ ลองถอดตะขอด้านหลังออกก่อนจะนำลงเครื่องซักผ้า
ตามมาตรฐานร้านผ้าม่านที่มีคุณภาพจะเพิ่มโซ่เหล็กถ่วงชายผ้าด้านล่างเพื่อให้ผ้าทิ้งตัว ก่อนซักควรถอดโซ่เหล็กนี้ออกก่อนเพื่อป้องกันการเป็นสนิม
ควรตั้งค่าเครื่องซักผ้าให้ถนอมเนื้อผ้ามากที่สุด โดยใช้รอบปั่นต่ำ และใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน หลีกเลี่ยงผงซักฟอกขาว และควรนำผ้าม่านไปผึ่งในที่ร่ม มีลมผ่าน ไม่โดนแดดโดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้สีซีด
การซักมืออาจเป็นวิธีที่ใช้แรงค่อนข้างมาก แต่เป็นวิธีที่ถนอมเนื้อผ้ามากที่สุด เหมาะกับผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือผ้าโปร่ง โดยการซักมือนั้นก็ควรใช้น้ำเย็น และค่อยๆ ขยี้ทีละจุด โดยเฉพาะจุดที่มีคราบ และล้างด้วยน้ำสะอาด 3-4 ครั้ง นอกจากนี้ท่านควรหลีกเลี่ยงที่จะบิดผ้าม่านไม่ให้แรงจนเกิดรอยยับหรือฉีกขาดได้
สำหรับท่านที่ไม่ต้องการซักผ้าม่านด้วยตนเอง ก็สามารถปรึกษาร้านผ้าม่านหรือส่งร้านซักแห้ง เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญจะทราบถึงวิธีดูแลผ้าม่านอย่างถูกต้อง และถนอมเนื้อผ้าอย่างมากที่สุด ซึ่งเมื่อแลกกับค่าบริการแล้วก็คุ้มค่าอย่างมาก เพราะผ้าม่านจะอยู่กับท่านได้นานขึ้น
ในเมื่อผ้าม่านเป็นสิ่งที่ช่วยกันแดดไม่ให้เข้ามาภายในบ้าน แล้วทำไมจึงต้องป้องกันผ้าม่านจะแสงแดดด้วย? เป็นเพราะว่าแสงแดดและรังสี UV นั้นจะทำให้สีของผ้าม่าน (โดยเฉพาะม่านสีเข้ม) ซีดจางเร็วกว่าปกติ อีกทั้งสามารถทำให้เนื้อผ้า “กรอบ” เสี่ยงต่อการฉีกขาดได้ง่าย เมื่อดึงหรือเลื่อนผ้าม่าน ยิ่งประเทศไทยมีแสงแดดที่ค่อนข้างแรง จึงส่งผลให้อายุการใช้งานของผ้าม่านนั้นสั้นลงอย่างมาก
ขอแนะนำให้ติดตั้งผ้าซับใน (Lining) รองไว้อีกชั้นเพื่อกรองแสงเพิ่มเติม หรือเลือกใช้ผ้าม่านที่มีคุณสมบัติทนทานต่อแสง เพื่อให้สามารถใช้งานได้นานมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่านแบบไหน ก็ควรเรียนรู้การใช้งานให้ถูกวิธี อาทิ ผ้าม่านที่ต้องม้วน พับ หรือมีเชือกดึง ก็ควรดึงผ้าม่านตามแนวดิ่ง ไม่ควรดึงม่านเป็นแนวเอียงหรือกระชากแรงๆ เพราะอาจทำให้ผ้าม่านหรือรางเสียหายได้ สำหรับผ้าม่านแบบจีบหรือผ้าม่านตาไก่ แนะนำให้ติดด้ามจูง (Curtain Stick) เพื่อเลี่ยงการดึงผ้าม่านแบบผิดจุด ลดโอกาสทำให้ผ้าม่านฉีกขาดโดยไม่ได้ตั้งใจ
วิธีดูแลผ้าม่านที่กล่าวไปทั้งหมดนี้ เป็นวิธีที่ทุกท่านสามารถทำเองได้ที่บ้าน เพื่อให้ผ้าม่านอยู่กับท่านไปนานๆ และหากท่านต้องการที่ปรึกษาหรือทีมผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งผ้าม่าน สามารถติดต่อ LUXE DÉCOR ได้ตามรายละเอียดด้านล่าง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าม่านของเราได้ที่