แนะนำการติดตั้งผ้าม่านกันแสง Dimout และ Blackout จาก LUXE DÉCOR


ในปัจจุบัน แสงแดดในประเทศไทยมีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดและรังสียูวีเข้มข้นในหน้าร้อน  หรือแสงแดดและความชื้นช่วงหน้าฝนที่ทำให้อากาศร้อนยิ่งขึ้น ส่งผลให้หลายครัวเรือนมองหาวิธีลดความร้อนและป้องกันแสงแดดที่เข้ามาในบ้าน ผ้าม่านกันแสงจึงกลายมาเป็นหนึ่งตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการปกป้องพื้นที่อยู่อาศัยจากแสงแดดและความร้อน แต่ด้วยตัวเลือกที่มีหลากหลายรูปแบบในท้องตลาด หลายคนอาจสับสนระหว่างผ้าม่านทึบแสงประเภท Blackout และม่านกรองแสง Dimout

วันนี้ LUXE DÉCOR จะมาขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผ้าม่านกันแสง เปรียบเทียบ Blackout และ Dimout อย่างชัดเจน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกผ้าม่านที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้อย่างมั่นใจ

ผ้าม่านกันแสงคืออะไร?

ผ้าม่านกันแสง คือ ผ้าม่านออกแบบมาเพื่อป้องกันแสงแดดและความร้อนจากภายนอกได้มากกว่าผ้าม่านทั่วไป จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวขณะอยู่ในบ้าน หรือต้องการปกปิดแสงเพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการพักผ่อนในเวลากลางวัน หรือมีปัญหาการนอนหลับเนื่องจากแสงรบกวนจากภายนอก

ปัจจุบันผ้าม่านกันแสงมีด้วยกัน 2 ประเภทหลักที่เป็นที่นิยมและจัดจำหน่ายในท้องตลาด ได้แก่ ผ้าม่าน Blackout และ ผ้าม่าน Dimout ซึ่งทั้งสองประเภทล้วนช่วยป้องกันแสงแดดและความร้อนได้ดีกว่าผ้าม่านทั่วไป แต่ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป

ความแตกต่างระหว่างผ้าม่าน Blackout และผ้าม่าน Dimout

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ผ้าม่าน Blackout และ Dimout นั้นมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะออกแบบมาเพื่อป้องกันแสงแดดเหมือนกันก็ตาม โดยสามารถแยกแยะข้อแตกต่างได้ ดังนี้

1. ระดับการป้องกันแสงแดด

ผ้าม่าน Blackout หรือผ้าม่านทึบแสงมีคุณสมบัติในการป้องกันแสงได้สูงสุด 100% ช่วยให้ภายในห้องมืดสนิท แม้ในเวลากลางวันที่มีแดดจ้า อีกทั้งยังช่วยป้องกันรังสี UV ได้อย่างสมบูรณ์

ส่วนผ้าม่าน Dimout หรือม่านกรองแสงสามารถป้องกันแสงได้ตั้งแต่ 40-95% โดยขึ้นอยู่กับโทนสีของผ้าม่านและความหนาของเนื้อผ้า ซึ่งยิ่งผ้าม่านมีสีเข้มหรือหนามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งป้องกันแสงแดดได้มากขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ แสงที่ลอดผ่านเข้ามาจะมีความนุ่มนวล ไม่ทำให้แสบตา แต่ก็ไม่ได้มืดสนิท

2. วิธีการผลิตและวัสดุที่ใช้

โดยทั่วไปผ้าม่าน Blackout มีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่า โดยมีวิธีการผลิต คือ การเคลือบโฟม 2-3 ชั้น หรือเคลือบซิลิโคนลงบนผ้าม่านเพื่อใช้เป็นชั้นป้องกันแสง หรืออีกวิธีหนึ่งคือการนำผ้า 2 ชิ้นมาประกบติดกัน พร้อมเคลือบวัสดุทึบแสงไว้ระหว่างกลางเนื้อผ้า ทำให้สามารถป้องกันแสงได้ดี

ในการทำผ้าม่าน Dimout ผู้ผลิตจะใช้วิธีการที่เรียบง่ายกว่า คือ การทำผ้าม่านจากโพลีเอสเตอร์หรือโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอนแล้วประกอบเนื้อผ้า 2 ชั้นเข้าด้วยกัน

3. คุณสมบัติอื่นๆ เพิ่มเติม

ผ้าม่าน Blackout และ Dimout ในบางคอลเลคชันมีคุณสมบัติป้องกันการลามไฟ (Flame Retardant) และสามารถดูดซับเสียงสะท้อนจากภายนอกหน้าต่างได้เหมือนกัน ทั้งนี้ผ้าม่าน Blackout มักมีเฉพาะตัวเลือกอย่างสีดำหรือสีเทาเข้ม ซึ่งอาจส่งผลให้การตกแต่งห้องนั้นๆ มีความท้าทายมากขึ้น ส่วนม่านกันแดด Dimout นั้นมักมีน้ำหนักที่เบากว่า ดูแลรักษาง่ายกว่า และที่สำคัญคือ มีสีสันและลวดลายให้เลือกหลากหลายกว่า 

ผ้าม่าน Blackout เหมาะกับห้องแบบไหน?

เนื่องจาก ผ้าม่าน Blackout มีคุณสมบัติในการบล็อกแสงได้ 100% จึงเหมาะกับห้องที่ใช้งานเพื่อพักผ่อน หรือต้องการความเป็นส่วนตัวสูง เช่น

  • ห้องนอน – ผ้าม่านกันแสงนั้นเหมาะกับห้องนอนอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการนอนพักผ่อนช่วงกลางวัน ช่วยให้นอนหลับสนิท ไม่ถูกรบกวนโดยแสงแดดที่อาจเปลี่ยนมุมเข้ามาสู่ภายในห้องได้มากขึ้น
  • ห้องที่โดนแดดจัด – สำหรับห้องที่รับแสงแดดตลอดทั้งวันอย่างทิศใต้ หรือมีหน้าต่างที่หันไปยังทิศทางดังกล่าว สามารถติดตั้งผ้าม่านกันแสงชนิด Blackout เพื่อลดความร้อนสะสมภายในห้อง ช่วยให้ห้องเย็นลงได้ โดยที่เครื่องปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนัก
  • ห้องโฮมเธียเตอร์ – สำหรับบ้านที่มีห้องสำหรับชมภาพยนตร์โดยเฉพาะ ผ้าม่าน Blackout ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์จำเป็นในการจำลองบรรยากาศเสมือนโรงหนังจริงๆ ทั้งยังช่วยป้องกันแสงสะท้อนบนหน้าจอทีวีที่อาจรบกวนการชมภาพยนตร์ได้อีกด้วย
  • ห้องทำงาน  เป็นห้องที่ต้องใช้สมาธิและความเป็นส่วนสูงอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่ Work From Home หรือทำงานระยะไกล ผ้าม่านกันแสงสามารถช่วยลดแสงจากภายนอกที่รบกวนสมาธิได้ดี

ผ้าม่าน Dimout เหมาะกับห้องแบบไหน?

ในอีกมุมหนึ่ง ผ้าม่าน Dimout นั้นมีความยืดหยุ่นมากกว่า ทั้งในด้านของการตกแต่งและการติดตั้งตามห้องต่างๆ โดยสามารถเลือกระดับการป้องกันแสงที่เหมาะสมกับห้องนั้นๆ ได้อย่างพอเหมาะ ไม่สว่างหรือมืดจนเกินไป ซึ่งเหมาะกับห้องดังนี้ 

  • ห้องนั่งเล่น – ม่านกรองแสงช่วยกรองแสงให้นุ่มนวลขณะทำกิจกรรมต่างๆ แต่ยังคงให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาเพื่อให้มองเห็นอย่างทั่วถึง
  • ห้องรับแขก – ผ้าม่าน Dimout สามารถสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองและผ่อนคลายให้กับแขกผู้มาเยี่ยมบ้าน
  • ห้องทานอาหาร – ผ้าม่าน Dimout ช่วยกรองแสงแดดในช่วงเช้า และป้องกันแดดจัดในช่วงมื้อกลางวัน แต่ยังคงความสว่างที่เพียงพอ ช่วยให้บรรยากาศการรับประทานอาหารมีความอบอุ่นมากขึ้น
  • ห้องเด็ก – การนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กๆ แต่ห้องนอนก็ไม่ควรมืดเกินไป เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้นการติดตั้งผ้าม่าน Dimout จึงตอบโจทย์ในการป้องกันแสงสว่างที่รบกวนการนอน แต่ยังคงให้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาเพียงพอ

แนะนำติดตั้งม่านไฟฟ้ากันแสงเพิ่มระดับความสะดวกสบาย

แนะนำการติดตั้งผ้าม่านกันแสง Dimout และ Blackout จาก LUXE DÉCOR

นอกเหนือจากผ้าม่านกันแสงแล้ว LUXE DÉCOR ขอแนะนำให้ติดตั้งร่วมกับรางม่านไฟฟ้า หรือม่านอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความทันสมัยให้กับบ้าน โดยจะช่วยให้สามารถควบคุมผ้า เปิด-ปิดม่านได้อย่างง่ายดายผ่านรีโมทคอนโทรล หรือตั้งเวลาเปิด-ปิดผ่านแอปพลิเคชันสมาร์ทโฟน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความหรูหราให้กับที่พักอาศัย โดยเฉพาะบ้านที่มีเพดาน Double Volume และหน้าต่างที่สูงเป็นพิเศษ

ประโยชน์ของม่านไฟฟ้า

  • เพิ่มความสะดวกสบาย – ควบคุมผ้าม่านได้จากทุกมุมของบ้านด้วยรีโมทหรือสมาร์ทโฟน
  • ยกระดับความทันสมัย – เพิ่มความหรูหราและทันสมัยให้กับบ้านในสไตล์โมเดิร์น
  • ฟังก์ชันการตั้งเวลา – ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติตามความต้องการ ตอบโจทย์ผู้ที่ไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่ต้องการเปิดปิดม่านเพื่อรับแสงแดดในช่วงกลางวัน
  • เหมาะกับเพดานสูง – ไม่ว่าผ้าม่านจะสูงหรือยาวแค่ไหน ก็สามารถควบคุมได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักของผ้าม่าน

การเลือกชนิดผ้าม่านกันแสงที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของแต่ละห้องในบ้าน หากต้องการความมืดสนิทเพื่อการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ ผ้าม่าน Blackout คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด แต่หากต้องการเพียงแค่ลดปริมาณแสงแดดและยังคงต้องการให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามา ผ้าม่าน Dimout อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

นอกจากนี้ การเลือกใช้ม่านไฟฟ้าร่วมกับผ้าม่านกันแดดยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความทันสมัยให้กับบ้านอีกด้วย ซึ่งไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ร้านผ้าม่าน LUXE DÉCOR พร้อมให้คำแนะนำและบริการครบวงจร เพื่อให้คุณได้ผ้าม่านที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแท้จริง

บริการติดตั้งผ้าม่านและวอลเปเปอร์จาก LUXE DÉCOR

บริษัท LUXE DÉCOR คือ ผู้ให้บริการงานติดตั้งผ้าม่าน มู่ลี่ ม่านไฟฟ้า และวอลเปเปอร์ครบวงจร จำหน่ายผ้าม่านกันแสงชนิดต่างๆ รวมถึงมู่ลี่ผลิตจากวัสดุคุณภาพดีเยี่ยม พร้อมให้คำแนะนำกับลูกค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวัดพื้นที่ การวัดขนาดผ้าม่าน/มู่ลี่ การเลือกชนิดผ้าม่าน ไปจนถึงการออกแบบลวดลายผ้าม่านและมู่ลี่ให้เหมาะสมกับสถานที่และการติดตั้ง ดูรายละเอียดประเภทผ้าม่านเพิ่มเติม คลิก

เรายังมีบริการออกแบบและติดตั้งวอลเปเปอร์ สำหรับติดผนังที่มีคุณภาพระดับสากล คัดสรรจากผู้ผลิตจากทั่วทุกมุมโลก ทำให้วอลเปเปอร์ของเรามีความพิเศษไม่ซ้ำใคร คือ

  • พรีเมียมวอลเปเปอร์ (Premium Wallpaper) ลวดลายสวยงามและหลากหลายให้เลือกสรร
  • มีบริการวอลเปเปอร์สั่งพิมพ์ Custom Wallpaper สามารถเลือกลายที่ชอบเพื่อจัดทำเป็นลาย Wallpaper ที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใครได้ 

อีกทั้งยังมีบริการหลังการขายที่ครอบคลุม และการรับประกันงานบริการถึง 1 ปีเต็ม

หากสนใจ สามารถสอบถามราคาผ้าม่าน วอลเปเปอร์ หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทาง

LINE Official: @LUXEDECOR

โทร.: 098-289-5159

LUXE DÉCOR ผู้ให้บริการงานผ้าม่านครบวงจร