ห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นถือเป็นหัวใจสำคัญของบ้าน เพราะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่ใช้สำหรับพักผ่อน ดูหนัง ฟังเพลง ทำงานอดิเรก และใช้เวลาร่วมกับครอบครัว นอกจากนี้ยังเป็นหน้าตาของบ้านเมื่อมีแขกมาเยี่ยมเยือนอีกด้วย ดังนั้น การแต่งห้องรับแขกให้สวยงาม อบอุ่น และน่าอยู่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งไม่ว่าจะมีพื้นที่กว้างขวางหรือจำกัด ก็สามารถสร้างสรรค์ห้องรับแขกให้สวยและมีสไตล์ได้
ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการและไอเดียแต่งห้องรับแขกในรูปแบบต่างๆ พร้อมเทคนิคการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและสร้างบรรยากาศที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น
ในการจัดห้องรับแขกเล็กๆ ให้ดูกว้างและมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นอาจท้าทายสำหรับเจ้าของบ้านหลายๆ คน โดยเฉพาะเมื่อมีพื้นที่จำกัด ทั้งนี้ มีเทคนิคและไอเดียต่างๆ ที่สามารถช่วยเนรมิตห้องรับแขกให้ดูกว้างขวางและน่าอยู่มากขึ้นได้
วิธีง่ายๆ ที่สามารถช่วยเพิ่มหรือปรับเปลี่ยนพื้นที่ห้องนั่งเล่นให้กว้างขึ้น คือ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถทำหน้าที่ได้หลากหลาย หรือเฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชัน (Multifunction) เช่น โซฟาปรับนอน (Sofa Bed) ที่สามารถเลื่อนเบาะออกมาเป็นที่นอนได้ เก้าอี้ชิ้นเล็กๆ ที่มีลิ้นชักเก็บของใต้เบาะ หรือโต๊ะที่สามารถปรับระดับเป็นโต๊ะทานอาหารหรือโต๊ะหน้าทีวี ซึ่งสามารถใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ อาทิ รับประทานอาหาร ทำงาน หรือไว้ดื่มกาแฟ นอกจากจะประหยัดพื้นที่แล้ว เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์เหล่านี้ยังช่วยลดพื้นที่ที่ต้องใช้ในการวางสิ่งของ ช่วยให้ห้องดูโล่งมากขึ้น
อีกวิธีแต่งห้องรับแขกแบบเรียบง่าย พร้อมช่วยลดพื้นที่วางสิ่งของ คือ การติดตั้งชั้นวางของแบบติดผนัง ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของโดยไม่ต้องใช้พื้นที่วางบนพื้น ช่วยทำให้ห้องดูโปร่งและกว้างขึ้น สามารถใช้เก็บหนังสือ ของตกแต่ง หรือของใช้ต่างๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ
เจ้าของบ้านท่านใดที่มีแผนรีโนเวทพื้นที่ภายในบ้าน ขอแนะนำให้แต่งห้องรับแขกแบบเปิดโล่งมากขึ้น เชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆ เช่น โซนวางโต๊ะรับประทานอาหาร เคาน์เตอร์บาร์ ห้องครัว รวมไปถึงทางเดินเข้าสวนหรือภายนอกบ้าน โดยการออกแบบห้องลักษณะนี้ช่วยให้ห้องดูกว้างขวางและมีมิติมากขึ้น สำหรับห้องทำงาน อาจใช้โต๊ะทำงานที่สามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน ส่วนการเชื่อมกับสวนช่วยดึงธรรมชาติเข้ามาในบ้าน ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น
การใช้ผ้าม่านสีอ่อนและวอลเปเปอร์ติดผนังที่มีลวดลายน้อย จะช่วยทำให้ห้องดูโปร่งและไม่อึดอัด โดยเฉพาะเมื่อใช้ผ้าม่านสีเอิร์ทโทน เช่น สีน้ำตาลอ่อน สีเบจ สีเทา หรือสีเขียว ซึ่งช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอบอุ่น และผ่อนคลาย ทั้งนี้ สามารถเลือกตกแต่งผนังห้องรับแขกด้วยสีโทนอ่อนสลับกับเฟอร์นิเจอร์โทนเข้ม เพื่อสร้างมิติให้ห้องดูไม่น่าเบื่อเกินไป
ในส่วนของวอลเปเปอร์ เจ้าของบ้านสามารถเลือกใช้สีโทนเดียวกับผ้าม่าน หรืออาจเลือกใช้สีขาวที่มีลวดลายเล็กๆ น้อยๆ เช่น รูปทรงเรขาคณิต ลายทางเส้นเล็ก ก็จะสามารถสร้างบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่ามีสไตล์การตกแต่งภายในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งการเลือกสไตล์การแต่งห้องรับแขกที่เหมาะกับรสนิยมและไลฟ์สไตล์เป็นสิ่งสำคัญ มาดูกันว่าจะมีไอเดียแต่งห้องรับแขกแบบไหนบ้างที่น่าสนใจและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้
การแต่งบ้านและห้องรับแขกสวยๆ สไตล์มินิมอล นับเป็นหนึ่งในรูปแบบการตกแต่งที่ได้รับความนิยมสูง เพราะเป็นการตกแต่งที่เน้นความเรียบง่าย น้อยแต่มาก มักใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งน้อยชิ้น แต่มีประโยชน์และฟังก์ชันใช้สอยหลากหลาย
ส่วนเรื่องของสีเฟอร์นิเจอร์หรือผ้าม่าน โดยส่วนใหญ่ การตกแต่งสไตล์มินิมอลมักจะเน้นใช้โทนสีอ่อนที่สบายตา เช่น สีเบจ สีขาว เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถตกแต่งเพิ่มเติมด้วยต้นไม้สีเขียวตามมุมต่างๆ หรือจะตกแต่งผนังด้วยภาพศิลปะ เพื่อสร้างจุดเด่นให้กับห้องด้วยก็ได้
สไตล์โมเดิร์นเป็นอีกหนึ่งสไตล์การตกแต่งห้องรับแขกที่เน้นความเรียบหรู ทันสมัย ด้วยการใช้วัสดุอย่างกระจก พื้นผิวลายหินอ่อน ผสมผสานกับเส้นสายที่สะอาดตาอย่างรูปทรงเรขาคณิตในวอลเปเปอร์ติดผนัง ส่วนเรื่องสี ก็สามารถใช้ได้หลากหลาย ซึ่งมักเน้นโทนสีพื้นอย่างสีขาว ดำ เทา หรืออาจมีการสลับสีให้ดูมีมิติมากขึ้นด้วยการสลับสีอ่อนและสีเข้ม ประกอบกับใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์เรียบง่าย ลวดลายน้อยและมีสีไม่ฉูดฉาด
สำหรับผ้าม่านที่เหมาะกับสไตล์โมเดิร์น ขอแนะนำให้เลือกติดตั้งผ้าม่านจีบ หรือม่านลอนที่มีความยาวตั้งแต่ขอบหน้าต่างจนถึงพื้น ซึ่งจะช่วยให้ห้องรับแขกดูหรูหรามากขึ้น พร้อมช่วยป้องกันแสงแดดได้ดีอีกด้วย
สไตล์ลอฟท์เป็นสไตล์ที่เน้นความ “ดิบ” เผยให้เห็นโครงสร้างของอาคาร เช่น ท่อ คาน ผนังอิฐหรือปูนเปลือย โดยไม่มีการแต่งเติมมากมายนัก ซึ่งหากบ้านใดที่ฉาบปูนเรียบร้อย แล้วติดวอลเปเปอร์ดีไหม ต้องขอบอกว่าสามารถเลือกติดตั้งวอลเปเปอร์ด้วยลวดลายที่ใกล้เคียงกับผนังอิฐได้อย่างสะดวก ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์ทันสมัย มีการโชว์โครงเหล็ก ไม้ หรือวัสดุธรรมชาติ
สำหรับใครที่ชอบความคลาสสิก ไอเดียแต่งห้องรับแขกในสไตล์วินเทจก็นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยการเน้นโทนสีขาว ครีม และน้ำตาล ไม่เน้นสีสันฉูดฉาด สามารถเพิ่มความเก๋ไปอีกขั้นด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่างๆ ที่มีเรื่องราว เช่น ตู้หนังสือไม้เก่า โคมไฟ รวมไปถึงของสะสมเล็กๆ น้อยๆ
สไตล์ญี่ปุ่นอาจจะเป็นไอเดียตกแต่งผนังบ้านที่มีความเฉพาะตัว แต่ก็เน้นความเรียบง่าย ความเป็นธรรมชาติ และการใช้งานเป็นหลัก ซึ่งมักตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์งานไม้ หรือไม้ไผ่ รวมไปถึงการติดตั้งมู่ลี่ไม้ แล้วแน่นอนว่า โทนสีที่เหมาะกับสไตล์ญี่ปุ่นนั้นคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากสีโทนอบอุ่นอย่างสีครีม สีเหลืองนวล สีขาว สีเขียวเข้ม และสีน้ำตาล
การแต่งห้องรับแขกให้สวยงามและน่าอยู่ไม่ใช่เรื่องยาก ด้วยการเลือกสไตล์ที่เหมาะกับความชอบ และใช้เทคนิคการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม ก็จะสามารถเนรมิตห้องรับแขกให้เป็นพื้นที่ที่กว้างขวาง สวยงาม และมีประโยชน์ใช้สอยได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์ การใช้สีและแสงอย่างเหมาะสม หรือการเพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมไปถึงการเลือกผ้าม่านและวอลเปเปอร์ที่ลงตัว ทั้งหมดล้วนเป็นวิธีที่ช่วยยกระดับห้องรับแขกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
ส่วนท่านใดที่กำลังตกแต่งบ้านใหม่ และกำลังมองหาบริการติดตั้งผ้าม่านหรือวอลเปเปอร์ LUXE DÉCOR พร้อมให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์
บริษัท LUXE DÉCOR คือ ผู้ให้บริการงานติดตั้งผ้าม่าน มู่ลี่ และวอลเปเปอร์ครบวงจร จำหน่ายผ้าม่านกันแสงชนิดต่างๆ รวมถึงมู่ลี่ผลิตจากวัสดุคุณภาพดีเยี่ยม พร้อมให้คำแนะนำกับลูกค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวัดพื้นที่ การวัดขนาดผ้าม่าน/มู่ลี่ การเลือกชนิดผ้าม่าน ไปจนถึงการออกแบบลวดลายผ้าม่านและมู่ลี่ให้เหมาะสมกับสถานที่และการติดตั้ง ดูรายละเอียดประเภทผ้าม่านเพิ่มเติม คลิก
เรายังมีบริการออกแบบและติดตั้งวอลเปเปอร์ สำหรับติดผนังที่มีคุณภาพระดับสากล คัดสรรจากผู้ผลิตจากทั่วทุกมุมโลก ทำให้วอลเปเปอร์ของเรามีความพิเศษไม่ซ้ำใคร คือ
อีกทั้งยังมีบริการหลังการขายที่ครอบคลุม และการรับประกันงานบริการถึง 1 ปีเต็ม
หากสนใจ สามารถสอบถามราคาผ้าม่าน วอลเปเปอร์ หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทาง
LINE Official: @LUXEDECOR
โทร.: 098-289-5159