ประวัติและประโยชน์ของผ้าม่าน ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน


ในบ้านทุกๆ หลังจะขาดเฟอร์นิเจอร์ไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา หรือพรม และหนึ่งในของตกแต่งสำคัญก็คือผ้าม่าน ที่นอกจะช่วยบดบังแสงแดด ป้องกันความร้อน และฝุ่นจากภายนอก ยังสามารถมอบความเป็นส่วนตัวภายในครัวเรือนได้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีวัสดุให้เลือกใช้ในการผลิตผ้าม่านมากมาย และมีหลายประเภท เช่น ผ้าม่านกันแสง ผ้าม่านกันไรฝุ่น หรือราวผ้าม่านไฟฟ้า เป็นต้น แต่ท่านทราบถึงความเป็นมาของผ้าม่านรึเปล่า? ผ้าม่านนั้นมีต้นกำเนิดมาจากไหน? มันเคยถูกใช้ประโยชน์ในด้านไหนบ้าง? วันนี้ LUXE DÉCOR จะมาบอกให้ทุกท่านได้ทราบกัน

ต้นกำเนิดของผ้าม่าน

ในเรื่องของต้นกำเนิดนั้น ปัจจุบันไม่มีนักประวัติศาสตร์ท่านใดทราบแน่ชัดว่าผ้าม่านถูกคิดค้นขึ้นมาเมื่อไหร่และใครเป็นคนสร้างมันขึ้นมา อย่างไรก็ตามมีหลักฐานจากภาพจิตรกรรมโมเสก (Mosaic) ปรากฏหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าชาวอียิปต์โบราณอาจเป็นผู้คนกลุ่มแรกที่เริ่มคิดค้นผ้าม่าน ในช่วง 3,000 ปีก่อนคริสตกาล (3,000 B.C.) โดยใช้หนังสัตว์ขนาดใหญ่ทั้งตัวมาแผ่เป็นผ้าผืนใหญ่คล้ายคลึงกับผ้าม่าน เพียงแต่ไม่ได้นำมาเพื่อปิดหน้าต่าง แต่นำมาเพื่อปิดช่องทางเดินแทนโดยการแขวนกับตะขอ (เนื่องจากในสมัยก่อนยังไม่มีบานพับประตูเหมือนปัจจุบัน) หลังจากนั้นชาวอียิปต์ก็ได้พัฒนามาใช้วัสดุที่เป็นผ้าลินิน ตามด้วยขนสัตว์ ผ้าไหม และผ้าคอตตอนแทน

ผ้าม่านในยุคกลาง (Middle Ages)

ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6-15 ที่เป็นยุคกลางนั้น ผ้าม่านยังไม่ได้รับความนิยมที่แพร่หลายมากนัก และที่สำคัญคือ ผ้าม่านยังไม่ได้ถูกใช้กับหน้าต่าง เนื่องจากหน้าต่างในยุคนั้นมีลักษณะที่เป็นแผ่นกระจกเล็กๆ คั่นด้วยไม้เป็นแท่งหลายๆ ชิ้นเท่านั้น จึงมีแสงผ่านเข้าไปในตัวบ้านไม่มากนัก และสามารถให้ความเป็นส่วนตัวได้มากพอสมควร ผ้าม่านจึงถูกใช้เป็น Portières หรือม่านปิดช่องประตูแทน ซึ่งร้านผ้าม่านในยุคนี้ก็คือร้านที่ขายผืนผ้านั่นเอง

ผ้าม่านที่นิยมมากขึ้นในยุคเรเนสซองส์ (Renaissance)

ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาหรือเรเนซองส์ (Renaissance) ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15-17 เป็นยุคที่นำมาซึ่งสีสันและศิลปะที่สวยงามมากมาย ศิลปินหลายท่านก็ได้มีการนำกระจกหลากสีสันที่เรียกกันว่า “Stained Glass Window” มาตกแต่งภายในโบสถ์สำคัญๆ ในส่วนสถาปนิกเองก็ได้มีการนำกระจกแผ่นใหญ่มาก่อสร้าง ทำให้แสงลอดเข้าหน้าต่างได้มากกว่าเดิมและมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ผู้คนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและแสงน้อยจึงได้นำผ้าชนิดต่างๆ มาปิดหน้าต่าง ผ้าม่านจึงได้รับความนิยมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ผ้าม่านก็ได้ถูกพัฒนาเรื่อยมา โดยมีชาวอียิปต์ เปอร์เซีย และจีนเป็นผู้นำในการออกแบบลวดลายและรูปแบบม่านอันสวยงามน่าหลงไหล ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18-19 และด้วยการค้าขายกับประเทศในยุโรปส่งผลให้ผ้าม่านเป็นที่รู้จักและแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันนี้ผ้าม่านมีคุณสมบัติต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่านกันแสง กันความร้อน ป้องกันไรฝุ่น รวมถึงมีระบบราวผ้าม่านไฟฟ้าแบบอัตโนมัติอีกด้วย

ประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ของผ้าม่าน

ทุกท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าผ้าม่านนั้นมีคุณสมบัติป้องกันแสงแดด ความร้อน และมอบความเป็นส่วนตัวได้ แต่จริงๆ แล้วผ้าม่านนั้นสามารถนำไปใช้งานแบบอื่นได้ด้วย ซึ่งก็คือการนำไปทำ Portières หรือม่านปิดช่องประตูแทนที่สามารถใช้เป็นที่แบ่งห้องภายในบ้านโดยแขวนไว้เหนือช่องประตู หรือหากบ้านของท่านมีห้องที่ต้องระบายอากาศอยู่ตลอด เช่น ห้องครัว แต่ไม่ต้องการเปิดประตูไว้ตลอด ก็สามารถนำผ้าม่านโปร่งหรือผ้าม่านกันแสงมาปิดช่องประตูได้เช่นกัน เพราะนอกจากจะให้ลมผ่าน ถ่ายเทอากาศไม่ให้ร้อนอบอ้าวแล้ว ยังสามารถป้องกันแมลงไม่ให้เข้ามาในบ้านได้ดีอีกด้วย

ท่านคงเห็นได้ว่าผ้าม่านมีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าจะถูกพัฒนามาเป็นผ้าม่านที่เรารู้จักในปัจจุบัน หากท่านต้องการที่ปรึกษาเรื่องการติดตั้งหรือออกแบบผ้าม่าน สามารถติดต่อ LUXE DÉCOR ที่มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการ พร้อมกับผ้าม่านตกแต่งทุกรูปแบบให้ท่านได้เลือกสรร สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ luxedecorationhome.com

 


ABOUT LUXE DÉCOR

LUXE DÉCOR คือผู้บริการผ้าม่านตกแต่งชั้นนำแบบครบวงจร

  • บริการผ้าม่านตกแต่งทุกประเภทและรูปแบบ โดยทีมงานระดับมืออาชีพ
  • พร้อมการรับประกันหลังการขาย 1 ปีเต็ม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าม่านของเราได้ที่

  • LINE Official : @LUXEDECOR หรือ
  • โทร. : 081-556-9566

แหล่งข้อมูลอ้างอิง
www.quickfitblindsandcurtains.com.au
www.chelseacleaning.co.za

LUXE DÉCOR ผู้ให้บริการงานผ้าม่านครบวงจร