ผ้าม่าน BLACKOUT อีกหนึ่งผ้าม่านยอดนิยมของผู้ปรารถนาอากาศเย็นสบายและการนอนหลับอย่างเต็มอิ่ม มีข้อควรรู้ใดบ้างเกี่ยวกับผ้าม่านชนิดนี้ วันนี้ LUXE DECORATION รวบรวมมาให้แล้ว
นวัตกรรมผ้าม่านกันแสงในปัจจุบันมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่
โดยทั่วไป ผ้าม่านทุกชนิดสามารถช่วยลดระดับแสงแดดภายในห้องให้อยู่ในโทนที่อบอุ่นพอดี แต่ถ้าห้องใครหันหน้าสู่ทิศที่โดนแสงแดดเต็ม ๆ เป็นประจำทุกวัน แน่นอนว่าบางครั้งผ้าม่านมาตรฐานก็อาจเอาไม่อยู่ หากต้องจะเปิดหน้าต่างรับลม คลายร้อนช่วงกลางวันก็กลัวจะยิ่งร้อน ต้องการจะอยู่ภายในห้องกับเพียงพัดลมก็อาจจะไม่ไหว ทำให้ต้องคอยเปิดแอร์อยู่ตลอดแม้บางคราวจะไม่อยากเปิด นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่อยากนอนกลางวันให้เต็มอิ่มแต่ค่อนข้างไวต่อแสง บางครั้งผ้าม่านมาตรฐานก็อาจไม่ตอบโจทย์ เพราะแสงยังคงเล็ดลอดเข้ามาในห้องได้อยู่ ทำให้นอนหลับได้ไม่เต็มอิ่ม ด้วยปัจจัยทั้งหมดมวลนี้เอง ‘ผ้าม่านกันแสง’ เช่น ผ้าม่าน BLACKOUT จึงถูกผลิตขึ้นมาเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการด้านนี้ของผู้อยู่อาศัยโดยเฉพาะ
ผ้าม่าน BLACKOUT มีหลากหลายชนิด และแต่ละชนิดยังมีคุณสมบัติกันแสงในระดับที่แตกต่างกัน ดังนี้
ในการผลิตผ้าม่าน BLACKOUT ชนิดนี้ ผู้ผลิตจะใช้เทคนิคนำผ้า 2 ชิ้นมาประกบติดกันโดยเคลือบวัสดุทึบแสงไว้ระหว่างกลางเนื้อผ้า จึงป้องกันแสงแดด และ รังสี UV ได้ 100% มีข้อดีคือราคาค่อนข้างถูกและผ้าด้านหน้า และ ด้านหลังสวยเหมือนกัน
สำหรับผ้าม่าน BLACKOUT ชนิดเคลือบโฟม ผู้ผลิตจะใช้เทคนิคเคลือบโฟมที่บริเวณด้านหลังเนื้อผ้า เมื่อสัมผัสด้วยมือจะเหมือนฟองน้ำบาง ๆ เคลือบอยู่ โดยความสามารถในการกันแสงขึ้นอยู่กับระดับชั้นการเคลือบ ซึ่งโดยปกติจะเคลือบกันอยู่ที่ 2 (บล็อกแสงได้เกือบ 100%) หรือ 3 ชั้น (บล็อกแสงได้ 100%) และ ในคอลเลคชั่นที่ใช้ White Acrylic Foam ซับหลังยังจะช่วยซับเสียง และ ช่วยให้ชั้นซับหลังดูสวยงามด้วย
สำหรับผ้าม่าน BLACKOUT ชนิดเคลือบซิลิโคน มีกระบวนการผลิตคล้ายการเคลือบโฟม แต่จากวัสดุโฟม ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็น ‘ซิลิโคน’ แทนที่สามารถช่วยกันแสงได้ 100% และยังช่วยทำให้ผ้าม่านเป็นลอนสวยงามอีกด้วย
ในการเลือกผ้าม่าน BLACKOUT ที่เหมาะสม ผู้ใช้งานจึงควรตรวจดูชนิดหรือวัสดุผ้า BLACKOUT ของร้านผ้าม่านเสมอ เพื่อเช็กว่าสามารถกันแสงได้ในระดับใด และตอบโจทย์ความต้องการของเราหรือไม่
นอกเหนือจากการผลิตให้สามารถกันแสงได้ 100% ผู้ผลิตผ้าม่าน BLACKOUT ส่วนใหญ่ยังสามารถพัฒนาและผลิตให้มีคุณสมบัติพิเศษอื่นด้วย เช่น ป้องกันการลามไฟ (Flame Retardant), ดูดซับเสียงสะท้อนภายนอกได้ (Additional Noise Block) และปราศจากสารพิษ โดยเฉพาะสารพทาเลท (Phthalate Free) ซึ่งก่อให้เกิดโรงมะเร็งได้
หลายคนมักคิดว่าผ้าม่าน BLACKOUT ต้องเป็นโทนสีทึบเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงผ้าม่าน BLACKOUT สามารถเป็นได้ทุกสีและทุกลวดลายอย่างหลากหลายตามที่ผู้ใช้งานต้องการ ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่านหรู หรือรูปแบบใด คุณสมบัติกันแสงของผ้า BLACKOUT ไม่ได้อยู่ที่สีผ้า แต่อยู่ที่กลวิธีการผลิต เช่น แม้เราจะเลือกโทนสีขาว แต่ถ้าเป็นนวัตกรรม BLACKOUT เคลือบซิลิโคน ก็สามารถช่วยบล็อกแสงได้อย่างตอบโจทย์
ด้วยคุณสมบัติกันแสงสูง 100% ผ้าม่าน BLACKOUT จึงเหมาะในหลากหายการใช้งาน เช่น
ABOUT LUXE DECOR
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าม่านของเราได้ที่
ร้านผ้าม่านสุดหรูที่ LUXE DECOR เท่านั้น