งานการตกแต่งภายในหรือ Interior Desgin นั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องใส่ใจอย่างมาก ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ วัตถุประสงค์การใช้งาน วัสดุ สี ฯลฯ ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์ที่ออกมาก็อาจไม่ตรงกับความต้องการหรือไม่เข้ากับสไตล์การออกแบบโดยรวมของห้อง การเลือกเฟอร์นิเจอร์ก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะผ้าม่าน ที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศของห้องได้เลยทีเดียว
ในบทความนี้ LUXE DÉCOR จึงขอมาแนะนำวิธีเลือกผ้าม่านให้เข้ากับสไตล์ของห้องและยังบอกถึงประโยชน์ในการใช้งานอีกด้วย
หลายท่านมองว่าวิธีเลือกผ้าม่านคงไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะคิดว่าแค่เลือกไปตามสีและลวดลายที่ถูกใจก็คงพอแล้วอาจเป็นแค่ผ้าม่านธรรมดาๆ หรือผ้าม่านหรูก็ได้ถ้ามีงบมากพอ แต่ต้องขอบอกว่าเป็นความคิดที่ผิด เนื่องจากผ้าม่านนั้นมีทั้งชนิดและคุณสมบัติมากมายกว่านั้นมาก เช่น ผ้าม่านที่เลือกใช้กับสำนักงานอาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานในบ้าน หรือห้องที่มีแสงแดดส่องทั้งวันแค่ผ้าม่านแบบปกติก็ไม่อาจตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้ การเลือกผ้าม่านสามารถเริ่มได้จากขั้นตอน ดังนี้
การซื้อผ้าม่านสำเร็จรูปมาอาจเป็นทางเลือกที่รวดเร็ว แต่ก็อาจจะเกิดปัญหาได้ อย่างกรณี ผ้าม่านไม่พอดีกับหน้าต่าง หรือทรงผ้าม่านผิดไปจากทรงของหน้าต่าง เช่น หน้าต่างที่เป็นบานพับขนาดเล็ก อาจจะไม่เหมาะกับผ้าม่านสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ก่อนตัดสินใจเลือกผ้าม่าน ท่านก็สามารถทำการวัดขนาดหน้าต่างก่อน สำหรับห้องที่มีเพดานสูงและหน้าต่างที่สูงเท่ากัน ก็สามารถใช้ผ้าม่านไฟฟ้าเพื่อการใช้งานที่สะดวกมากขึ้น หรือให้ร้านผ้าม่านที่มีความเชี่ยวชาญอย่าง LUXE DÉCOR ให้คำปรึกษาก็ทำได้เช่นกัน
ขนาดของห้องก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ เพราะหากผ้าม่านใหญ่จนใช้พื้นที่มากไปก็อาจทำให้ห้องดูแคบ น่าอึดอัด และไม่ปลอดโปร่ง หากท่านอาศัยอยู่ในห้องขนาดเล็ก เช่น คอนโดหรืออพาร์ตเมนต์ ก็ขอแนะนำให้เลือก ประเภทผ้าม่านอย่าง ม่านพับ มู่ลี่ หรือม่านม้วน เพื่อให้ประหยัดพื้นที่การใช้สอยได้มากขึ้นนั่นเอง
จุดประสงค์หลักของผ้าม่านคือเพื่อป้องกันแสงส่วนเกิน วิธีเลือกผ้าม่านให้เหมาะสมก็ควรดูว่าทิศทางของแสงมาจากทางไหนมากที่สุด เช่น หากห้องอยู่ในทิศใต้หรือทิศตะวันตก ความร้อนจากแสงแดดจะส่องถึงห้องในช่วงบ่าย ซึ่งจะได้รับความร้อนจากแสงจะแรงกว่า ตัวเลือกของผ้าม่านจึงจะแตกต่างจากห้องที่อยู่ทางทิศตะวันออก อาทิ ผ้าม่านกันแสง ที่มีคุณสมบัติกัน UV ได้ และยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวขณะอยู่ในบ้านได้อีกด้วย ซึ่งผ้าม่านกันแสงก็มีด้วยกัน 2 แบบคือ BLACKOUT และ DIMOUT ที่ให้ระดับการป้องกันแสงต่างกัน สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมและความชอบส่วนตัว
เนื้อผ้าที่นำมาตัดม่านนั้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญต่อวิธีเลือกผ้าม่าน เพราะจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงระดับการกรองแสง การดูแลรักษา การทำความสะอาด และรวมถึงคุณภาพอีกด้วย ซึ่งชนิดของผ้าม่านมีหลากหลาย บางชนิดอาจเหมาะกับการตกแต่งแบบหนึ่ง ในขณะที่ผ้าอีกชนิดเข้าได้ดีกับดีไซน์ห้องแบบอื่นๆ ท่านสามารถศึกษาเกี่ยวกับผ้าชนิดต่างๆ ได้ที่บทความของ LUXE DÉCOR ด้านล่าง
luxedecorationhome.com/knowing-about-different-types-of-fabrics/
สีของผ้าม่านนั้นเป็นตัวแปรที่ส่งผลต่ออารมณ์ของห้องได้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น โทนสีน้ำตาลจะให้ความรู้สึกที่อบอุ่น สีเขียวให้ความเป็นธรรมชาติ หรืออาจเลือกเป็นสีฟ้าที่ให้ความรู้สึกเย็นสบาย เป็นต้น
แต่ละห้องในบ้านก็จะเหมาะกับโทนสีผ้าม่านที่ต่างกัน เช่นห้องครัวที่เหมาะกับม่านโปร่ง ให้อากาศถ่ายเท ห้องนั่งเล่นจะเหมาะกับสีโทนสดใสดูมีความกระตือรือร้น ส่วนห้องนอนก็จะเข้ากับผ้าม่านโทนสีเย็นหรือสีเข้มเพื่อให้การพักผ่อนอย่างเต็มที่
อีกหนึ่งตัวแปรหลักก็คือลวดลายของผ้าม่าน ซึ่งสามารถเป็นแนวทางในการออกแบบภายในได้ เช่น ผ้าม่านหรูที่มีลวดลายและลักษณะสวยงามอย่างผ้าม่านหลุยส์ ก็เหมาะกับการนำมาติดตั้งควบคู่กับวอลล์เปเปอร์ (Wall Paper) ลาย Luxury หรือหากเป็นมู่ลี่ไม้ก็จะเข้ากันได้ดีกับห้องโทนสีธรรมชาติหรือสไตล์มินิมอล
ทั้ง 5 วิธีเลือกผ้าม่านที่กล่าวมา ท่านสามารถนำไปใช้ประกอบการพิจารณาได้ หรือหากท่านยังไม่มั่นใจในการเลือกผ้าม่านด้วยตนเอง สามารถติดต่อ LUXE DÉCOR เพื่อขอคำปรึกษาและบริการติดตั้งผ้าม่านจากทีมงานผู้มีประสบการณ์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าม่านของเราได้ที่