ในปัจจุบัน ผู้อยู่อาศัยต้องการผ้าม่านที่สามารถปกป้องห้องภายในบ้านจากแสงแดด ที่นับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้น แต่ผ้าม่านมาตรฐาน อาจจะไม่สามารถสู้กับห้องที่มีแดดแรง ๆ ได้ทั้งวัน เพราะเหตุนี้เอง กระแสการทำผ้าม่านกันแสงจึงเป็นที่นิยมมาก แต่ร้านผ้าม่านหลาย ๆ แห่งก็มีให้เลือกทั้งแบบ BLACKOUT และแบบ DIMOUT ที่คล้ายกันจนทำให้หลายท่านเกิดการสับสนไม่น้อย
ผ้าม่านทั้งสองแบบนี้ ต่างกันอย่างไร? และเหมาะกับห้องแบบไหน? วันนี้ LUXE DÉCOR จะมาคลายข้อสงสัยให้ทุกท่านเอง
นวัตกรรมการผลิตผ้าม่านกันแสง ที่มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันแสงแดดและความร้อนเป็นหลัก ที่สามารถทำได้มากกว่าผ้าม่านปกติ เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวขณะอยู่ในบ้าน หรือปกปิดแสงเพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะบางท่านอาจจะต้องการนอนกลางวันในห้องที่มืด หรืออาจจะมีปัญหาการนอนหลับเนื่องจากแสงรบกวนภายนอก และผ้าม่านกันแสงก็สามารถช่วยตอบโจทย์ในจุดนี้ได้ดี
ทั้งผ้าม่าน BLACKOUT (แบล็คเอาท์) และ DIMOUT (ดิมเอาท์) มักจะทำออกมาจากวัสดุที่เหมือนกัน คือ โพลีเอสเตอร์ หรือโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอน นอกจากนั้นผ้าม่านทั้งสองชนิด มีความแตกต่างดังนี้
นอกจากนี้ผ้าม่าน BLACKOUT ในบางคอลลเลคชั่นยังมีคุณสมบัติพิเศษอีก คือ สามารถป้องกันการลามไฟ (Flame Retardant) และดูดซับเสียงสะท้อนภายนอกได้ (Additional Noise Block) รวมถึงปกป้องผู้อยู่อาศัยจากรังสียูวี (UV Ray Protection) ได้อีกด้วย
ข้อแตกต่างสำคัญระหว่างผ้าม่านทั้งสองชนิดนี้ก็คือ ระดับการป้องกันแสง โดยผ้าม่าน DIMOUT จะสามารถกันแสงได้ระหว่าง 40% – 95% ขึ้นอยู่กับโทนสีของเนื้อผ้าว่ามีความเข้มมากน้อยแค่ไหน ส่วนผ้าม่าน BLACKOUT สามารถป้องกันแสงได้สูงสุด 100% จากการเคลือบโฟม 3 ชั้น , เคลือบซิลิโคน หรือ เพิ่มวัสดุทึบแสงไว้ระหว่างกลางเนื้อผ้า
เนื่องจากคุณสมบัติการบล็อกแสงได้ 100% ผ้าม่าน BLACKOUT จึงสามารถนำมาใช้ได้ในหลายสถานการณ์ เช่น
ความสามารถในการป้องกันแสงแดดของผ้าม่าน DIMOUT ที่อยู่ระหว่าง 40% – 95% ทำให้เป็นผ้าม่านที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานกับห้องต่าง ๆ ในบ้าน เช่น
นอกจากความเหมาะสมที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ร้านผ้าม่านหลาย ๆ ร้านก็อาจจะแนะนำให้ประยุกต์ผ้าม่านกันแสงกับผ้าม่านไฟฟ้า โดยติดตั้งเข้าด้วยกันเป็นการสร้างระบบ Home Automation ไปพร้อม ๆ กัน
โดยสรุปแล้ว ความแตกต่างของผ้าม่านทั้ง 2 ชนิด เกิดจากปัจจัย กระบวนการผลิต ความสามารถในการป้องกันแสง และความสามารถเพิ่มเติม ในการป้องกันไฟ ลดเสียงรบกวนภายนอก หรือกันแสงยูวี ส่วนในเรื่องของความเหมาะสมนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานห้องของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าม่านของเราได้ที่