สำหรับใครที่เบื่อง่าย หรือต้องเปลี่ยนลักษณะการใช้งานห้องบ่อยๆ การทาสีห้องเป็นสีใดสีเดียวไปเลยอาจจะไม่ตอบโจทย์นัก เนื่องจากการทาสีห้องใหม่บ่อยๆ สิ้นเปลืองทั้งงบประมาณและเวลา รวมถึงเวลาที่ต้องรอเพื่อให้สีแห้งด้วย ดังนั้นการติดวอลเปเปอร์กำแพงอาจตอบโจทย์การใช้งานในส่วนนี้ได้ดีกว่า แล้วจะมีวิธีการเลือกลายวอลเปเปอร์อย่างไรบ้าง?
โดยห้องที่ตกแต่งสไตล์หรูหราจะเหมาะกับวอลเปเปอร์ที่มีลวดลายเป็นรูปทรงเรขาคณิต หรือลวดลายที่ดูแปลกตา ตัดขอบด้วยสีทอง จะช่วยเสริมให้บรรยากาศของห้องดูหรูหรามากยิ่งขึ้น ในขณะที่ห้องสไตล์โมเดิร์นจะเหมาะกับวอลเปเปอร์แบบไม่มีลาย โทนสีเรียบๆ ซึ่งจะให้ความรู้สึกเรียบง่าย สบายตา
วอลเปเปอร์ที่มีลวดลายทั่วทั้งแผ่นจะทำให้ห้องดูมีขนาดเล็กลง ส่วนวอลเปเปอร์ที่ไม่มีลวดลายเลยจะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น การเลือกลายวอลเปเปอร์จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถปรับมุมมองของขนาดของห้องได้ สำหรับห้องที่ต้องการให้เฟอร์นิเจอร์ หรือวัตถุชิ้นใดชิ้นหนึ่งโดดเด่น สามารถใช้วอลเปเปอร์ที่มีมีลวดลายเป็นเส้นตรง เพื่อนำสายตาไปยังวัตถุดังกล่าว
การเลือกวอลเปเปอร์ให้เข้ากับโทนสีของห้อง หรือเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง จะทำให้ภาพรวมของห้องดูกลมกลืนไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูสบายตามากยิ่งขึ้น
นอกจาก วอลเปเปอร์จะใช้กับผนังทั่วห้องได้แล้ว ยังสามารถเลือกติดวอลเปเปอร์บนผนังด้านใดด้านหนึ่งของห้องได้ด้วยยกตัวอย่างเช่น การติดวอลเปเปอร์เฉพาะผนังด้านเดียวกันกับหัวเตียง พร้อมกับติดไฟซ่อนบริเวณหัวเตียง เมื่อเปิดไฟจะทำให้บรรยากาศของห้องดูหรูหราและอบอุ่นชวนผ่อนคลายไปในตัว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคนิคการติดวอลเปเปอร์ที่ช่วยเสริมบรรยากาศของห้องนอน
เสริมบรรยากาศให้ดูเรียบหรูด้วยวอลเปเปอร์ลายทางโทนสีเทา เหมาะกับห้องที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเทาและดำ อีกทั้งลายทางยังให้ผนังของห้องดูสูงขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของห้องดูโปร่งขึ้นไปด้วย
สร้างบรรยากาศของห้องให้ดูสบายตาด้วยวอลเปเปอร์สีเบจลายคลื่น ซึ่งสีเบจจะทำให้ห้องดูสว่าง และทำให้ขนาดของห้องดูกว้างขึ้น เหมาะกับห้องที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีเบจ สีขาว และสีครีม
ห้องที่ตกแต่งด้วยสไตล์หรูหราคลาสสิคจะเหมาะกับวอลเปเปอร์ขาวดำลายดอกไม้ขอบทอง ซึ่งให้ความรู้สึกเข้มขรึมด้วยสีขาวดำ แต่ก็แฝงความหรูหรา ด้วยดีเทลลายดอกไม้สีทอง สามารถใช้แต่งห้องคู่กับเฟอร์นิเจอร์โทนขาว ดำ และทองได้
อีกหนึ่งลายวอลเปเปอร์ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา แต่วอลเปเปอร์ลายหลุยส์คลาสสิกโทนสีครีมจะช่วยให้ห้องดูสว่าง ต่างจากวอลเปเปอร์โทนขาวดำ เหมาะกับห้องที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีครีม สีขาว และสีทอง อีกทั้งยังทำให้ห้องดูน่ารักและวินเทจขึ้นด้วย
ไม่ได้มีเพียงลวดลายและสีเท่านั้นที่ทำให้วอลเปเปอร์ติดผนังมีความแตกต่างกัน แต่ผิวสัมผัสก็ทำให้วอลเปเปอร์ดูแตกต่างกันได้ ซึ่งสามารถแบ่งประเภทวอลเปเปอร์ตามผิวสัมผัสได้ดังนี้
อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อและติดตั้งวอลเปเปอร์ควรเลือกร้านวอลเปเปอร์ติดผนัง หรือผู้จัดจำหน่ายวอลเปเปอร์ติดผนังที่น่าเชื่อถือ เช่น LUXE DÉCOR ซึ่งมีบริการพิเศษที่ลูกค้าสามารถหาลายวอลเปเปอร์ที่ต้องการมาเองและให้ทาง LUXE DÉCOR ออกแบบให้ได้ ซึ่งจะทำให้มีลายวอลล์เปเปอร์ที่พิเศษ สวยงาม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอีกด้วย
LUXE DÉCOR พร้อมบริการติดตั้งวอลเปเปอร์ที่ครบวงจรและพิเศษกว่าใคร เพราะเป็นพรีเมียมวอลเปเปอร์ (Premium Wallpaper) ที่มีความสวยงาม มาพร้อมกับลวดลายที่หลากหลายให้ได้เลือกสรร
มั่นใจได้ว่าวอลเปเปอร์ของเรามีคุณภาพ อีกทั้งมีบริการหลังการขาย ที่รับประกันความพึงพอใจและคุณภาพสินค้าถึง 1 ปีเต็ม ในกรณีวอลเปเปอร์เกิดชำรุดเสียหายจากการผลิตหรือติดตั้ง
หากสนใจ สามารถสอบถามราคาวอลเปเปอร์ หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทาง
LINE Official: @LUXEDECOR
โทร. : 081-556-9566